วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Songs & Series Guide: Seven Deadly Sins

มหาบาปทั้ง 7 ที่ซึ่งทำให้เกิดเรื่องราวมากมายระหว่างช่วงเวลานับ 1000 ปี ของประวัติศาสตร์แห่งEvillious
*ส่วนที่เป็นการรีวิวเป็นเพียงความคิดเห้นส่วนตัวเท่านั้น*


ข้อมูลซีรีส์
ชื่อ 悪ノ大罪 (Aku no Taizai,Deadly Sins of Evil) / 七つの大罪 (Nanatsu no Taizai,Seven Deadly Sins) *ชื่อแรกหมายถึงรวมนิยายด้วยแต่ชื่อหลังหมายถึงเพลงอย่างเดียว
ผู้แต่ง mothy Akuno-P(mothy 悪ノP)
จำนวนเพลง 15 เพลง
นิยาย 4(+4) เล่ม +1 ไกด์บุ๊ค
แนว ดราม่า แฟนตาซี

ซีรีส์นี้เป็นซีรีส์ย่อยในซีรีส์
エヴィリオス年代記 (The Evillious Chronicles)

อัลบัมแนะนำ

Evils Kingdom


Evils Court


Seven Crimes and Punishment

รายชื่อเพลง
เพลงสรุป
Seven Crimes and Punishment (Clockwork Lullaby 7)
เพลงหลัก
-The Lunacy of Duke Venomania (Dance with Asmodeus)
-Evil Food Eater Conchita (Beelzebub Party)
-Daughter of Evil (The princess of lucifer)
   -ซีรีส์ย่อย Story of Evil
-Gift from the Princess who Brought Sleep (Belphegor's gift)
-The Tailor of Enbizaka (Leviathan slope)
-Judgment of Corruption (Mammon's court)
-The Muzzle of Nemesis (Satan's Revenge)
เพลงตอบกลับ
-The Portrait Glassred Drew
-Drug of Gold
-Servant of Evil ( His Significance of Existence)
-The Fifth Clown (End of Hansel)
-The Weathered Head at Onigashima
-Miniature Garden Girl (Clockwork lullaby II)
-The Last Revolver (Good-by my lover)

      ตัวซีรีส์นั้นได้รับแรงบัลดาลใจมาจากความเชื่อทางศาสนาคริสต์เรื่องบาปทั้ง7 และภาพวาด"มหาบาปทั้งเจ็ดและสี่สิ่งสุดท้าย" ซึ่งสะท้อนออกมาเยอะมากในตัวEvilious Chronicle ที่เป็นซีรีส์ใหญ่ ทั้งชื่อประเทศต่างๆที่ตั้งตามปีศาจทั้ง7 (Lucifenia=Lucifer, Marlon=Mammon, Elphegort=Belphegor, Asmodian=Asmodeus, Beelzenia=Beelzebub, Leviantha=Levianthan, Tasan=Satan) และตัวซีรีส์ๆนี้ก็ได้มาจากบาปทั้ง7นั้นเช่นกัน ส่วนสี่สิ่งสุดท้ายนั้นได้ทำเป็นนายทั้ง4 ในซีรีส์End of the Four (Master of Graveyard, Master of Court, Master of Heavenly Yard, Master of Hellish Yard) และเทพเจ้าทั้ง4 แห่งศาสนาLevin (Sickle,Held,Levia,Behemo) และความเชื่อทางคริสต์ต่างๆ แนวคิดเรื่องเทพเจ้าแบบฮินดู และเทพปกรณัมกรีกโรมัน นิทาน ประวัติศาสตร์อื่นๆอีกมากมายมาผสม กันซึ่งจะสังเกตได้จากทั้งตัวละคร เนื้อเรื่อง สถานที่หรือทุกๆอย่างเลยทีเดียว


ภาพวาด"มหาบาปทั้งเจ็ดและสี่สิ่งสุดท้าย"

    แต่ละเพลงในซีรีส์นั้น ถ้าดูแค่เพลงมันจะดูเหมือนไม่ต่อกัน (เว้นJudgement of CorruptionและThe Muzzle of Nemesis ที่ชัดเจนมาก) แต่ถ้าดูลึกๆแล้วความเชื่อมโยงนั้นได้ใส่แอบๆไว้หลายจุดเลยทีเดียว อย่างสิ่งของที่ปรากฏ การกระทำของตัวละคร แต่ตัวเพลงเป็นแค่โครงคร่าวๆใหญ่ๆเท่านั้น การจะลงลึกต้องดูหลายๆที่ และเนื่องจากบางเพลงแต่งมานานแล้วอาจมีการแก้ไขในด้านเนื้อเรื่องได้ สำหรับซีรีส์นี้ให้นับนิยายว่าเป็นเรื่องCanon เป็นหลักมีแต่การเพิ่มเติมรายละเอียด ไม่มีแก้ย้อน (แต่อาจเล่นการตีความคำแทนอย่างIrina ในนิยายVenomania บอกว่าฆ่าElluka เป็นคนแรก แต่ตอนหลังกลายเป็นคนที่3 แต่2คนก่อนฆ่าโดยอ้อมไม่ได้โดยตรง จึงเป็นคนแรกที่ฆ่าโดยตรง)



ภาชนะแห่งบาป

      แก่นหลักของซีรีส์นี้ ที่สิงสถิตของปีศาจแห่งบาป อาจเป็นสิ่งของหรือมนุษย์ก็ได้ สามารถทำสัญญากับปีศาจเพื่อยืมพลังมาใช้ได้ หากแตะต้องหรือจ้องมองภาชนะนานๆโดยไม่ทำสัญญา อาจโดนปีศาจเข้าควบคุมได้ หากแตะต้องภาชนะหรือทำสัญญาแล้ว จะสามารถพูดคุยกับปีศาจแห่งบาปผ่านทางความคิดได้ แต่ก็มีบางตัวที่สามารถปรากฏร่างออกมานอกภาชนะได้ในสภาพเงาดำ หรือเลียนแบบคนที่ผู้ครอบครองรักเพื่อมายั่วยุ ผู้ที่ทำสัญญาหรือผู้ที่ถูกครอบงำสามารถแปลงร่างเพื่อใช้พลังของปีศาจได้อย่างเต็มที่ โดยที่ทำสัญญาจะสามารถแปลงร่างได้ตามใจ

      โดยพื้นฐานแล้วสิ่งที่จะเป็นภาชนะแห่งบาปได้นั้นจะต้องมีคุณสมบัติเป็นกรงวิญญาณ ซึ่งแทบทุกชิ้นจะถูกสร้างโดยSeth Twiright ไม่ก็Irina Clockworker เนื่องจากมีแค่ 2 คนนี้ที่รู้วิธีสร้าง ซึ่งวัตถุที่ได้เป็นภาชนะแห่งบาป วัตถุนั้นจะกลายเป็นอุปกรณ์เวทมนต์ไปโดยปริยาย และถ้าภาชนะเป็นมนุษย์ ปีศาจจะสืบทอดทางสายเลือดโดยเมื่อคนหนึ่งตายลงจะย้ายไปอยู่ที่อีกคนที่สายเลือดใกล้ชิดกัน คนที่เป็นภาชนะแห่งบาปจะได้รับผลกระทบทางบุคลิกจากปีศาจ แต่จะไม่สามารถใช้พลังของปีศาจหรือถูกครอบงำโดยปีศาจตนอื่นได้ แต่ก็ยังได้ความสามารถในการได้ยินเสียงของสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์เช่นเดียวกับผู้ทำสัญญา และถ้าปีศาจออกจากร่างไปอยู่ภาชนะที่เป็นวัตถุแล้ว ผู้สืบสายเลือดของคนที่เคยเป็นภาชนะยังคงมีพลังบางส่วนของปีศาจหลงเหลืออยู่ ทำให้ไม่สามารถถูกครอบงำโดยปีศาจได้ ส่วนทายาทของผู้ทำสัญยาที่มีในขณะที่ทำสัญญานั้นจะคล้ายๆกัน แต่ยังสามารถถูกครอบงำโดยปีศาจได้ และได้รับความสามารถบางส่วนของผู้ทำสัญญามา แต่ไม่ใช่กับทุกคน เช่นทายาทของVenomania บางคนมีความสามารถทางร่างกายที่เหนือกว่ามนุษย์ธรรมดา หรือบางกรณีเช่นGaou และGakuga สามารถแปลงร่างเป็นปีศาจได้ แต่ไม่มีพลังเท่ากับร่างแปลงของตัวSateriasisเอง เช่นไม่สามารถบินได้ไกลๆหรือไม่สามารถบินโดยแบกผู้อื่นไว้ด้วยได้

พื้นฐานของสิ่งของที่นำมาทำเป็นภาชนะเป็นดังนี้
ดาบอสรพิษ-ดาบที่เบาเป็นพิเศษ
จอกแก้วแห่งConchita-แก้วไวน์ที่ไม่มีวันแตกหรือเป็นรอย
ดาบแฝดแห่งLevientha-ดาบที่ไม่มีวันขึ้นสนิม
ตุ๊กตาClockworker-ตุ๊กตาที่ทนทานเป็นพิเศษ+มีช่องลับที่ถูกนำไปใส่กล่องดำ
Grimm the End-กุญแจที่ทำจากโลหะที่เปลี่ยนรูปร่างเองได้

      ภาชนะแห่งบาปสามารถถูกผนึกได้โดยนักเวท ไม่ให้ปีศาจสามารถใช้พลังไปทำสัญญาหรือครอบงำใครได้ แต่ถ้าเป็นภาชนะที่แยกเป็นหลายชิ้น จะต้องผนึกให้หมดทุกชิ้น และถ้านั่นเป็นภาชนะที่ไม่ใช้ภาชนะหลักของตนนั้น ปีศาจจะกลับภาชนะหลักแทน แต่การบังคับเอาภาชนะแห่งบาปหรือปีศาจออกจากผู้ทำสัญญาหรือผู้ถูกครอบงำไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามยกเว้นหลุดจากการควบคุมเองหรือกินผงทองที่ขูดจากกุญแจทองคำเข้าไป อาจทำให้ผู้ทำสัญญาหรือผู้ที่ถูกครอบงำความจำเสื่อมได้ และว่ากันว่าหากรวบรวมครบทุกอย่าง จะมีพลังพอที่จะทำทุกสิ่งที่ปราถนาให้เป็นจริงได้จึงมีหลายคนที่พยายามรวบรวม

รายชื่อผู้พยายามรวบรวมภาชนะแห่งบาป

1.Irina Clockworker จุดประสงค์ เพิ่มจำนวนHER
2.Elluka Clockworker จุดประสงค์ ทำตามคำขอของเทพเจ้าEld และหยุดเหตุร้ายจากภาชนะ
3.Gast Venom จุดประสงค์ ชุบชีวิตน้องสาว
4.Gallerion Marlon จุดประสงค์ รักษาลูกสาว

     ภาชนะแห่งบาปสามารถตื่นขึ้น โดยปีศาจจะลอกเลียนบุคลิกและหน้าตาของคนบาปที่ทำสัญญาหรือโดนปีศาจครอบงำมาเป็นบุคลิกและหน้าตาของตน (แต่ไม่แน่นอนเสมอไป อย่างเจ้าแห่งศาลไม่ใด้ใช้หน้าตาของMagarita คนบาปหรือEve ต้นแบบในการสร้างร่างตุ๊กตา แต่เป็นแบบที่ต่างออกไป(คนอื่นๆผมสีเขียวทั้งหมด แต่เจ้าแห่งศาลผมสีฟ้า) ส่วนบุคลิคเป็นของตัวเองล้วนๆจากการที่ได้Gallerianมาคอยดูแลทำให้เธอรักGallerianเหมือนพ่อแท้ๆ) ถ้าคนบาปกลายเป็นปีศาจเสียเอง คนบาปจะฟื้นคืนชีพขึ้น ร่างที่ตื่นขึ้นนั้นหากเสียชีวิตจะกลับสภาพเป็นวัตถุดังเดิม


กำเนิดบาปทั้ง7

    กำเนิดของบาปทั้ง7นั้น อยู่ในอีกซีรีส์หนึ่งคือOriginal Sin Story ซึ่งถ้าให้เขียนแบบเต็มๆคงยาวไป เพราะมันยาวพอๆกับซีรีส์นี้ จะขอเล่าโดยสรุปแค่3เพลงที่สำคัญจริงๆ

 Moonlit Bear (First episode)



    Eve Moonlit ได้พบผลไม้สีแดง2ลูกที่กลางป่า เธอเชื่อว่ามันเป็นของขวัญจากพระเจ้า เธอจึงเอามันกลับบ้านหวังว่าAdam สามีของเธอจะดีใจ เธอได้หนีหมือันน่ากลัวซึงเธอรู้ว่าผลไม้นี้เป็นของสำคัญของมัน เมื่อเธอกลับถึงบ้าน สามีของเธอเตือนว่าลูกของพวกเขาเพิ่งตายไปได้ไม่นาน แล้วให้คืนผลไม้นั้นมันแก่แม่ที่แท้จริง ผลไม่นั้นความจริงคือเด็กทารก2คน เธอบอกว่าคืนไปไม่ได้เพราะเธอฆ่าหมีหรือแม่ของเด็กทั้ง2ไปแล้ว ตอนนั้นบาปกำเนิดได้เกิดขึ้นในตัวเธอ

置き去り月夜抄 (Okizari Tsukiyosyou, Abandoned on a Moonlit Night/ Insane moonlight)


    เด็ก2คนเดินตามพ่อแม่เข้าไปในป่า พวกเขาเดินไปเรื่อยๆก็รู้ว่าถ้าเดินต่อไปจะหลงทาง และทั้งสองถูกทิ้งเหมือนฮันเซลกับเกรเทล พวกเขาเติมขวดแก้วด้วยแสงจันทร และเดินไปจนถึงบ้านของแม่มด พวกเขาจับแม่มดไปเผาในเตา พวกเขาเรียกหาคำชมจากพ่อแม่ที่พวกเขาฆ่าแม่มดและลูกน้องแม่มด สุดท้ายพวกเขาตัดสินใจออกหาพ่อแม่ที่แม้จริง

クロノ・ストーリー (Chrono Story/ Clockwork lullaby5)


    Hansel และGretel ได้เผาEve ในเตาและนำบาปกำเนิดออกมาจากเถ้ากระดูกของเธอที่เหลืออยู่ และได้แบ่งมันออกเป็น7ส่วน นำมาผสมกับวิญญาณของ 6 พระญาติที่เป็นเทพฝั่งชั่วกับวิญญาณของAdamและEve และส่งมันกระจายไปทั่วโลก หลังจากนั้นต้นไม้แห่งHeld ได้ขอให้เพื่อนของเขาจอมเวทElluka Clockworker ให้ช่วยรวบรวมภาชนะแห่งบาปทั้ง7 เธอตอบตกลงเพราะมันเป็นการฆ่าเวลาสำหรับเธอที่มีเวลาชั่วนิรันดร์ ร้อยปีต่อมาเธอได้อยู่หน้าคฤหาสน์ของSateriasis

เพลงสรุปรวมซีรีส์
七つの罪と罰 (Seven Crimes and Punishment/Clockwork Lullaby 7)



บาปทั้ง7+เพลง (ขออภัยเขียนแนะนำตัวละครทั้งหมดไม่ไหว เยอะเกิน)


Luxuria
ราคะ

"เอาละ มาเต้นรำกันเถอะ"
"ถ้าเกิดว่าเธอไม่เปลี่ยนไป"

ปี EC 136
เหตการณ์ คดีVenomania


คนบาป Sateriasis Venomania  (ซาเทเรียซิส เวโนมาเนีย)
ชื่ออื่น Cherubim (เครูบิม, ชื่อจริง)
           Sati (ซาติ, ชื่อเล่น)
           ดุ๊คแห่งราคะ (ฉายา)
           ลูกปีศาจ (ฉายา)

รูปลักษณ์ต้น บุปผาแห่งราคะ

ภาชนะแห่งบาป เวนอม ซอร์ด (ดาบอสรพิษ)


ปีศาจ ปีศาจแพะไม่ทราบชื่อ

    เป็นเพลงแรกสุดตามไทม์ไลน์ของซีรีส์นี้ และเรียกได้เลยว่าเหตุการณ์หลังจากนี้หลายอย่าง ก็เป็นผลกระทบมาจากเรื่องนี้ทั้งสิ้น หรือว่าจะเรียกว่า ผลกรรม ก็ได้เช่นกัน ทั้งการหายตัวไปของConchita การปฏิวัติLucifenia เหตุสี่ทหารม้า และยาวไปจนถึงยุคของGammon Octo ในสมัยเดียวกับ Gallerian Marlon ในอีกเกือบพันปีให้หลัง ที่ต้องมีชะตากรรมอันโหดร้ายเพราะเป็นผู้สืบเชื้อสายมาจาก Sateriasis ดังเช่นผู้สืบเชื้อสายคนอื่นๆอีกมากมาย

    การตีความบาปของMothy ในอันนี้นั้นค่อนข้างตรงตัวเลยทีเดียวในด้านรูปลักษ์ของภาชนะ ดาบนั้นบางครั้งหมายถึงอวัยวะเพศชายได้ ซึ่งหากมองเช่นนั้น การทำสัญญากับปีศาจที่ใช้ดาบแทงอกตัวเอง อาจสื่อถึงการมีเพศสัมพันธ์ และดอกไม้ที่เป็นรูปลักษณ์ดั้งเดิมของบาปก็มีผู้วิเคราะห์ไว้ว่าอาจมาจากจำว่า Deflower ที่หมายความว่าพรากพรรมจรรย์

    ตัวดาบนั้นเป็น"เมล็ดพันธุ์แห่งความชั่วร้าย" ที่Seth Twiright ผอ.โครงการMa ยุคอาณาจักรเวทมนต์แห่งLeviantha ได้สร้างไว้ ตามแบบดาบของJakoku (แดนอสรพิษ) ทางตะวันออก ซึ่งตัวดาบนั้นสามารถใช้เปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นผู้เพาะพันธุกรรมชั่ว(HER) เทียมได้ และลูกหลานก็จะเป็นHER แต่จะไม่แสดงอาการโดยง่าย และในฐานะอาวุธมันเป็นดาบที่เบาเป็นพิเศษจึงใช้งานง่ายซึ่งเป็นคุณสมบัติของตัวดาบจริงๆ ไม่ได้มาจากการเป็นภาชนะแห่งบาปแต่อย่างใด

    ด้านพลังนั้นเมื่อทำสัญญาจะสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์คนหนึ่งเป็นเป็นอีกคนได้ หากทำให้กับผู้อื่นหรือทำโดยไม่ได้ทำสัญญาจะทำได้ครั้งเดียว แต่ผู้ทำสัญญาจะทำกับตัวเองกี่ครั้งก็ได้ และสามารถล้างสมองและควบคุมความทรงจำของเพศตรงข้ามได้ แต่สามารถใช้ทำพิธีทางเวทมนต์เพื่อลบความทรงจำคนจำนวนมากได้ โดยไม่จำกัดว่าเป็นชายหรือหญิง แต่ถ้าทำพิธีผิดพลาด ความทรงจำบางส่วนของผู้ใช้จะถูกลบไปชั่วคราว และปีศาจจะหลับไป ทำให้ใช้พลังไม่ได้

    ร่างจริงของปีศาจแห่งบาปนั้นได้แบบมาจากบาโฟเมธ ซึ่งหลายคนเชื่อว่าหมายถึงซาตานตามศาสนาคริสต์ แต่ความจริงเป็นสัญลักษณ์แทนความอุดมสมบูรณ์ทางการเกษตรและทางเพศ จึงถูกศาสนาคริสต์ในยุคต่อมาหาว่าเป็นสิ่งนอกรีต

    ตัวดาบนั้นได้เปลี่ยนมือผู้ถือครองไปหลายครั้งตลอดเวลานับพันปี แต่ตอนEC 500 ปีศาจได้ออกจากดาบไปและได้กลับมาอีกครั้งหนึ่งประมาณปี 600

สรุปนิยาย(เอาแค่เหตุการณ์สำคัญ) *สปอล์ย*

บทนำ
IRไปที่คฤหาสน์Venomania พบCherubimกำลังฆ่าตัวตายหลังจากฆ่าทุกคนในบ้าน จึงเสนอให้ทำสัญญากับปีศาจ และCherubimยอมตกลง
บทที่1
-Lukana Octo ช่วยSateriasis(Cherubim) ที่หมดสติบนถนนในสภาพความจำเสื่อมบางส่วน
-Lukana ไปตัดชุดให้Sateriasisที่คฤหาสน์
-Lukana ใช้พลังฝันสีม่วงทำให้รู้เรื่องที่Sateriasisทำสัญญากับปีศาจ
-Sateriasis แปลงเป็นปีศาจใช้มนต์แห่งราคะล้างสมองLukana แล้วพาไปซ่อนไว้ที่ใต้คฤหาสน์ แต่ล้มเหลวในการสะกดMikulia Greeonioที่ผ่านมาเห็นเข้าและMikuliaหนีไปได้
บทที่2
Sateriasis ไปตามหาตัวMikulia ถึงหมู่บ้านแล้วไปพาเข้าฮาเร็ม
บทที่3
-มาร์ควิสGlassred ลุงของSateriasis(ตัวจริง) มาคุยเรื่องคู่หมั้นGuminaลูกสาวของเขากับSateriasis
-Sateriasis บุกคฤหาสน์ตระกูลGlassred และชิงตัวGuminaออกมา
บทที่4
-พระเจ้าMartius MarlonและพระราชินีYufina เสด็จเยือนBeelzania
-Sateriasis บุกคฤหาสน์เอิร์ลDonald ซึ่งพระราชาและพระราชินีแห่งMarlonไปประทับ และชิงตัวYufina ตามคำสั่งของIR

เพลงหลัก ヴェノマニア公の狂気 (Venomania-kou no Kyouki, The Lunacy of Duke Venomania/ Dance with Asmodeus)
ผู้ร้อง Gackpoid (Sateriasis Venomania), Miku Hatsune (Mikulia Greeonio),Luka Megurine (Lukana Octo), MEIKP (Meilis Beelzenia), KAITO (Kachess Crim), Megpoid (Gumina Glassred)




เรื่องย่อ
(ไม่สปอล์ย เท่าแค่ในเพลง)

    ดุ๊ค Sateriasis Venomania ได้ลักพาตัวหญิงสาวมากมายมาตั้งฮาเร็ม โดยใช้พลังของดาบอสรพิษ ล้างสมองพวกเธอ สุดท้ายเขาถูกKachess Crim ขุนนางของประเทศMarlon สังหาร และทุกคนในฮาเร็มของเขาก็คลายจากการล้างสมอง แล้วหนีออกไปจนสิ้น

 (สปอลย์)

    Cherubim เป็นเด็กที่เกิดมามีรูปร่างน่ารังเกียจ จนแม่ของเขาฆ่าตัวตายหลังคลอดเขาออกมา เขาถูกขังไว้ในห้องใต้ดินของคฤหาสน์ตั้งแต่เด็ก ต่อมาเคานท์ Sateriasis Venomania น้องชายที่เกิดจากภรรยาใหม่ของพ่อเขาได้แอบพาเขาออกไปข้างนอกและได้พบกับGumina Glassred เขาตกหลุมรักเธอ แต่หลายปีต่อมาตอนเขาอายุได้24 เขาซึ่งตอนนั้นได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกได้แต่ต้องปิดบังตัวตน ได้รู้ว่าGumina กำลังจะหมั้นกับSateriasis เขาไปบอกรักGumina แต่โดนดูถูกกลับมา เขาจึงฆ่าSateriasis และครอบครัวของเขา เขาได้รับดาบอสรพิษมาจากจอมเวทIR และได้ทำสัญญากับปีศาจ เปลี่ยนหน้าตาตัวเองเป็นSateriasis และได้ใช้พลังที่ได้มาล้างสมองผู้หญิงมาเป็นฮาเร็ม โดยไม่สนใจทั้งอายุ ฐานะ ความสัมพันธ์ เขาได้ลักพาตัวเจ้าหญิงMeilis Beelzenia เจ้าหญิงของจักรวรรดิBeelzania ที่เป็นประเทศแม่ของแคว้นAsmodean ที่เขาเป็นเจ้าแคว้น และสมเด็จพระราชินีนาถYufina Marlon แห่งประเทศMarlon สุดท้ายสุดท้ายเขาถูกKachess Crim ขุนนางของประเทศMarlon และชู้รักของพระราชินีYufina สังหาร และได้เปิดโปงการกระทำของเขา Sateriasis ได้โดนศาสนจักรประนามว่าเป็นปีศาจ และลูกหลานของผู้หญิงในฮาเร็มที่เกิดจากเขา ถูกเหยียดหยามว่าเป็นลูกปีศาจ

ปอีกหลายร้อยปี

รายชื่อผู้ถูกลักพาตัวเท่าที่ทราบทั้งหมด22คน

-Lukana Octo (ช่างตัดเสื้อ,20)
-Mikulia Greeonio (ชาวนา,18)
-Gumina Glassred (ขุนนาง,21)
-Lilian Turner (ร้านขนมปัง,24)
-Maylis Beelzania (เจ้าหญิงอันดับ3 แห่งจักรวรดิBeelzania,22)
-Yufina Marlon (ราชินีแห่งอาณาจักรMarlom,26)
-Milagan Ardi (หมอดู,28)
-Rolan Eve (นักเต้น,32)
-Carol Shields (พ่อบ้านหญิง)
-Priema Soap (ว่างงาน,30)
-Tette Cetora (นายทหาร(ชั้นอัศวิน),31)
-Neruneru Nerune (หน่วยสืบราชการ,19)
-Anlee Sweets (หมอ,62)
-Mewtant Lusha (ค้าอัญมณี,29)
-Hakua Natsuma (ไม่ระบุ,22)
-Sonica Sonic (ขุนนาง,19)
-Mikkina Olliba (ไม่ระบุ,19)
-Rio Nature (คนรับใช้,16)
-Yuki Kainna (ไม่ระบุ)
-Lazuri Blue (14)
-Josrphine Francoise (ไม่ระบุ)
-Rindo Blum (แม่ชี,ไม่ระบุ)

สายตระกูลที่สืบทอดจากSateriasis Venmania

Greeonio ลูกเสียชีวิตตังแต่ยังเด็กไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ตอนคลอดหรือเมื่ออายุได้ราว10ปีก็ตาม(ไม่ทราบเหตุการณ์ที่แท้จริง) จึงไม่มีผู้สืบทอด

Conchita สายที่เกิดจากลูกของMaylis Beelzania ถูกยกให้เป็นลูกบุญธรรมของบารอนToy Conchita แล้วสืบทอดถึงดัชเชสBanica Conchita และสืบต่อมาเป็นGermine Avadonia และอาจรวมถึงMayrana (IV The Shadow)

Octo สายที่ใหญ่ที่สุดกระจายไปทั่วBolganio ทายาทคือ Zenon(Gast Venom) Sarah และ Gatt (The Sixth Venom) บางส่วนหนีไปที่ทางตะวันออกเปลี่ยนนามสกุลเป็นOkuto (奥戸) เป็นตระกูลที่สืบไปเป็นKayo Gammon(Gamon) Nyoze

เพลงที่เกี่ยวข้อง



プラトーの花 (Puratoo no Hana, Flower of the Plateau)
ผู้ร้อง Miku Hatsune (Kikulia Greeonio)

    เรื่องหลังจากที่Mikulia Greeonio ได้หนีออกมาจากคฤหาสน์ของSateriasis หลังเขาตาย หลังจากหนีออกมาได้คลอดลูกของSateriasis เธอได้หนีออกจากหมู่บ้านและระหกระเหินจนไปเป็นโสเภณีที่เมือง  Lasaland และต่อมาได้ทิ้งลูกไปและหนีจากการประนามของศาสนจักร ปิดบังตัวตน เป็นนักปลูกดอกไม้อยูุ่ที่ Merigod ในElphegort ต่อมาเธอได้แต่งงานกับขุนนางท้องถิ่น แต่เจ้าของซ่องสมัยเธอเป็นโสเภณีได้มายังMerigod เธอกลัวความลับจะแตกจึงฆ่าเขาและฝังศพเขาซ่อนไว้ข้างบ่อน้ำ 3ปีต่อมาลูกชายที่เธอทิ้งไปได้ออกเดินทางตามหาแม่จนถึงMerigod เธอก็ได้ฆ่าเขาเช่นเดียวกัน

グラスレッドの肖像 (Portrait Glassred drew *ชื่ออังกฤษผิดไวยกรณ์)
ผู้ร้อง 
Megpoid (Gumina Glassred)
   หลายปีหลังเหตุการณ์ Venomania Gumina ได้วาดรูปของCherubim  ขึ้นมาอีกครั้งและนึกย้อนไปว่าตัวเองนั้นอาจรักCherubim จริงๆก็ได้


การตื่นของบาป ไม่ทราบ


(ตัวแทน) คนสวนต้องสาป


ชื่อจริง Gammon Octo (แกมมอน ออคโต (奥戸我門 กะมง โอคุโตะ)

     ผู้สืบเชื้อสายมาจากSateriasis และLukana Octo หนึ่งในผู้หญิงในฮาเรม เคยเป็นทหารยศสิบเอกในกองทับสหพันธรัฐEvillious จนกระทั่ง Nyoze พี่ชายถูกGallerian จับเป็นแพะรับบาปในคดีฆาตกรรมเพื่อหมายจะยึดครองดาบอสรพิษในฐานะของกลาง เขาพยายามทวงคืนดาบอสรพิษเพื่อไปล้างคำสาปตระกูลVenomaniaแต่ไม่เป็นผล ต่อมาเขาหันไปเป็นนักการเมืองและเป็นประธานพรรคTasan ประมาณปี990 Gammon ได้ลอบเข้าไปในโรงภาพยนต์กลางป่าที่เก็บรักษาภาชนะแห่งบาปเอาไว้ แต่ถูกเจ้าแห่งศาลจับได้เสียก่อน ในขณะที่กำลังจะโดนฆ่า ผู้เฝ้ารอได้ขอชีวิตเอาไว้ เขาได้ทำงานเป็นคนสวนของโรงภาพยนต์ และใช้ความสามารถ"ฝันสีม่วง" ในการดูรายละเอียดเหตุการณ์ต่างๆในอดีต เพื่อช่วยงานเขียนบทละครของMa และทำความเข้าใจถึงตัวคำสาป


Gula
ตะกละ

"เอาละ จะกินให้หมดละนะ"
"ถ้าเกิดว่าไม่หนีไป"
ปี EC 325
เหตการณ์ การหายตัวไปของConchita


คนบาป Banica Conchita (บานิกา คอนซิตา)
ชื่ออื่น คุณหญิงแห่งอาหารBanica (ฉายา)
           ปีศาจตะกละBanica (ฉายา)
           ปีศาจดูดเลือดVanica (ตามนิทานพื้นบ้าน)
           ปีศาจแห่งตะกละ (ภายหลังความตาย)
           เจ้าแห่งสุสาน

ตัวจริงปีศาจ
           ปีศาจหมูไม่ทราบชื่อ
           Banica Conchita
การกลับชาติ/อวตาร
Hansel =Pollo
Gretel =Arthe
รูปลักษณ์ต้น เมล็ดแห่งตะกละ



ภาชนะแห่งบาป จอกแก้วแห่งConchita


     แก้วไวน์ที่พบในท้องของหมูบาเอม ที่เป็นอาหารฉลองการเกิดของ Banica ตัวจอกนั้นสามารถสร้างโรคGuala

     โรคGulaนี้แบ่งเป็น2แบบ คือแบบก่อนที่Banica จะเป็นปีศาจ และแบบของปีศาจBanica

แบบที่1 เกิดจากการกินสัตว์กินจอกเข้าไป(ซึ่งถือเป็นการทำสัญญารูปแบบหนึ่ง ซึ่งที่กินไปจอกไม่เป็นอะไรน่าเป็นเพราะคุณสมบัติพื้นฐานของภาชนะแห่งบาปที่จะทำลายได้ยากกว่าวัตถุธรรมดา) แล้วมีคนจับสัตว์นั้นมากินอีกที จะทำให้ควบคุมความอยากอาหารไม่ได้ จนไปกินวัตถุมีคมหรือวัตถุที่ไม่ควรกินต่างๆจนถึงแก่ความตาย แบบแรกนี้อยู่ในลักษณะของคำสาป ไม่แพร่ระบาด ไม่มียารักษายกเว้นรับประทานอาหารบ่อยกว่าปกติโดยไม่ปล่อยให้หิวเลยเป็นระยะเวลาประมาณ10ปี จึงจะล้างคำสาปได้ โดยคนที่ตายจากคำสาปนี้จะมีเพียงวันละ1คนเท่านั้น

แบบที่2 เป็นเชื้อโรค โดยอาการจะแตกต่างจากแบบแรก โดยที่มีอาการเริ่มต้นโดยมีไข้สูง และสุดท้ายจะอาเจียนเป็นระยะๆ ไอเป็นเลือดและเสียชีวิตในที่สุด สามารถรักษาได้แต่กว่าจะมียารักษาก็ประมาณปี600 ซึ่งก่อนหน้านั้นมันได้คร่าชีวิตผู้คนในEvillious ไปมากมายจากการระบาดอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายEvilliousศตวรรษที่5 ซึ่งจากการที่เป็นเชื้อโรคจริงๆจึงสามารแพร่ระบาดได้ตลอดแม้ไม่มีการเสกเชื้อโรคโดยจอกก็ตาม แต่การระบาดครั้งใหญ่ๆนั้นเกิดจากการใช้จอกทั้งสิ้น

ไม่ว่าจะแบบที่1หรือ2 หากเทของเหลวในจอกลงบนพื้นดินหลุมฝังศพผู้ตายจากโรคนี้จะปลุกศพขึ้นมาเป็นผีดิบคอยรับใช้ผู้ครอบครองจอก ผีดิบนั้นยังคงบุคคลิกความทรงจำตอนเป็นมนุษย์ แต่โดนเชิดโดยพลังปีศาจ หากเป็นศพที่ตายแบบอื่น จะต้องสัมผัสกับของเหลวในจอกโดยตรง

    ด้านบทบาทของข้อตะกละ ตัวเพลงจะไม่ได้สำคัญอะไรมากมายด้วยตัวเอง แต่มันไปมีบทบาทเยอะในStory of Evil มากกว่าของตัวเอง ทั้งตัวภาชนะ และผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากBanica แม้กระทั่งตัวBanica เอง

     การตีความส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าข้อนี้ตีความมาได้แย่สุด นอกจากพลังที่ได้จากการทำสัญญาแล้วกินเท่าไหร่ กินอะไร ก็ไม่อ้วน ไม่ป่วย พลังที่เหลืออย่างปลุกผีดิบ สร้างโรคGuala ดูไม่เกี่ยวกับตะกละเท่าไหร่ เว้นโรคGuala ทำให้ผู้ป่วยควบคุมความอยากอาหารไม่ได้ แต่นั่นไม่ได้มายความว่าอ่อนแอ บทน้อยสุด ออกมาแย่สุดหรืออย่างใด (ส่วนตัวแล้วเพลงที่แย่สุดในซีรีส์คือของระทม ไม่ค่อยเพราะเท่าไหร่ เพราะตัวเพลงConchitaมี2เวอร์ชัน เวอร์ชันแรกคือข้างบนที่ไม่ค่อยเพราะเท่าไหร่แต่เวอร์ชันใหม่นั้นเพราะกว่ามาก ) ตัวปีศาจนั้นมีพลังเป็นอันดับสองรองจากแค่ปีศาจแห่งอัตตาเท่านั้น แม้แต่ในสภาพไร้รูปร่างยังสามารถออกไปฆ่าคนได้ ไม่ต้องยึดครองร่างหรือทำสัญญากับผู้อื่น และตอนBanica กลายเป็นปีศาจแทนนั้นพลังดูแล้วเหนือกว่าปีศาจตัวก่อนเสียอีก ถึงขั้นสามารถไปเป็นเจ้าแห่งสุสานได้ใน End of The Four ได้ การตีความนั้นจริงๆดูๆไปมันไปเน้นที่ตัวBanica ในฐานะเจ้าแห่งสุสานหรือราชินีแห่งความตายมากกว่า ตัวเมล็ดแห่งตะกละ นั้นมีลักษณะเป็นผลทับทิม ซึ่งทับทิมนั้นตามเทพนิยายกรีกจะไปมีความเกี่ยวข้องกับความตาย

    ตะกละอันนี้ตีความจะไปน่าสนโดยที่การตีความว่าตะกละมันบาปอย่างไร Monthy แสดงความตะกละว่ามันคือการจ่อมจมอยู่กับความต้องการของตัวเองอย่างเกินพอดี ไม่มีการยกเว้นใดๆทั้งสิ้น ไม่มีสติควบคุมแม้แต่น้อย มีแต่ทำตามความอยากตัวเองเท่านั้น (ขนาดSateriasis ยังไม่เอาผู้หญิงหมดทุกคนที่ขวางหน้าเลย เอาแค่คนที่สวยจริง กับคนที่ใช้งานได้ยังพอมีสติในการเลือกอยู่ ไม่ได้เอาตรงนั้นเลยแต่วางแผนไว้ก่อน ถึงสามัญสำนึกจะไปแล้วก็ตาม)

    ข้อนี้จริงๆMothy ได้ใช้คำผิดโดยใช้คำว่า 悪食 (akujiki) แทนที่ 暴食 (boushoku) ในการหมายถึงคำว่าตะกละ และในงานของเขาก็ใช้ 2 คำนี้สลับกันเป็นประจำโดยที่ในเพลงจะเป็น 悪食 ที่หมายถึงมูมมามหรือกินของที่ไม่ควรกิน ซึ่งจากที่ดูๆไป จริงอยู่ถ้าหมายถึงตัวConchita แต่มันเอนเอียงไปทางความหมายที่ว่าตะกละมากกว่า แต่อย่างอื่นจะใช้เป็น 暴食 ตามปกติแทน ดังนั้นเพลงEvil Food Eater Conchita จึงควรแปลชื่อประมาณว่า Conchitaจอมตะกละ จึงจะถูกต้อง (ในนิยายที่ข้าเจ้าจะแปลจะใช้ชื่อว่า "ปีศาจตะกละคอนซิตา") แต่การใช้นั้นจากนิยายทำให้เห็นอีกความหมายหนึ่งคือการกินของที่คนธรรมดาๆไม่กินกันหรือก็คือ"เปิบพิศดาร"

เพลงหลัก 悪食娘コンチータ (Akujiki Musume Konchiita, Evil Food Eater Conchita/ Beelzebub Party)
ผู้ร้อง MEIKO (Banica Conchita), Len Kahamine (Pollo), Rin Kagamine (Arthe)


verเก่า


verใหม่

(ไม่สปอล์ย เท่าแค่ในเพลง)

    ดัชเชส Banica Conchita ชื่นชอบการกินอาหารที่คนธรรมดากินแล้วต้องป่วยอย่างแน่นอน ซึ่งครั้งหนึ่งเธอเคยกินอาหารอันโอชะอย่างปกติชนทั้งหมดมาแล้ว ตอนนี้เธอต้องการลิ้มรสอาหารอันน่าสยดสยองใหม่ๆทุกวัน แม้กระทั่งยาพิษก็ตาม Joseph พ่อครัวคนที่15ของเธอ ได้ขอลาหยุด แต่เธอไม่ยอมและได้กินเขา และต่อมาเธอได้กินPollo กับArthe คนรับใช้ของเธอตามเข้าไป และสุดท้ายเธอก็ได้กินตัวเอง

 (สปอลย์)

    ดัชเชส Banica Conchita  ผู้โด่งดังในเรื่องรสนิยมการกิน ผู้พัฒนาการเกษตรและการอาหารของEvillious จนถูกเรียกว่า คุณหญิงแห่งอาหาร และลูกหลานของSateriasis Venomania กับเจ้าหญิง Meilis Beezzelnia ได้ล้มป่วยลงด้วยโรคจากความอ้วนกำลังจะตาย เธอตั้งปณิธานไว้ว่าจะลิ้มรสของอาหารทุกอย่างบนโลกใบนี้ก่อนตาย และเธอคิดว่ามันใกล้สำเร็จแล้ว แต่ปีศาจแห่งตะกละได้ปรากฏตัวขึ้นหว่านล้อมเธอว่าเธอเพิ่งกินไปแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น จนเธอยอมทำสัญญากับปีศาจและได้ผอมลง ไม่ว่าจะกินอาหารอันตรายขนาดไหนก็ไม่เป็นอะไรทั้งสิ้น เธอได้หมกตัวอยู่แต่ในคฤหาสน์ ลิ้มลองอาหารที่ประหลาดพิศดารขึ้นเรื่อยๆ ทิ้งงานปกครองแคว้นให้กับArthe คนรับใช้ของเธอ และปลุกกองทัพผีดิบของคนที่ตายด้วยโรคGuala สมัยเธอยังเด็กมาป้องกันไม่ให้ใครมารบกวน จนเธอได้ฆ่าคนส่งสารของจักรพรรดที่มาหา จึงได้เกิดสงครามระหว่างกองทัพจักรวรรดิกับทัพผีดิบของเธอและเธอก็เริ่มคิดทีี่จะครองโลก(ที่จริงใช้คำว่ากินโลกแต่มองว่าน่าหมายถึงครองโลก) จนJoseph พ่อครัวคนที่15 ของเธอและคนรัก ซึ่งเป็นเจ้าชายKarlos Marlonอดีตคู่หมั้นของเธอที่โดนผู้ใหญ่ถอนหมั่นเนื่องจากรับไม่ได้ในพฤติกรรมการกินของเธอสมัยเด็กๆที่ปลอมตัวมา เขาได้พยายามหลบหนีออกจากคฤหาสน์ของเธอจึงขอลาหยุด แต่เธอปฏิเสธ เขาจึงวางยาพิษในอาหาร แล้วกินเองส่วนหนึ่ง แต่ยาส่วนของเขาออกฤทธิ์เสียก่อน ทำให้เธอไหวตัวทัน และสั่งให้เอาศพของเขาไปทำอาหาและเธอกินมันทั้งน้ำตา และต่อมาเธอได้กินPollo กับArthe ตามเข้าไป ต่อมาปีศาจได้ปรากฏตัวขึ้นยุยงให้เธอกินลูกของเธอ ที่เกิดกับKarlos แต่เธอไม่ยอมและตัดสินใจกินตัวเองจนตายแทน และวิญญาณของเธอได้กัดกินปีศาจแห่งตะกละแล้วตั้งตนเป็น ปีศาจแห่งตะกละตนใหม่แทน

เพลงที่เกี่ยวข้อง
Drug of Gold

ผู้ร้อง KAITO (Karlos Marlon)

      เรื่องราวทางฝั่งKarlos ผู้ที่ร่างกายอ่อนแอตั้งแต่เด็ก ถูกจับให้หมั้นกับBanica แต่ก็โดนโดนผู้ใหญ่ถอนหมั่นเนื่องจากรับไม่ได้ในพฤติกรรมการกินของเธอ ผ่านไปหลายปีเขาได้ทราบข่าวคราวเกี่ยวกับBanica และเขาได้ปลอมตัวเป้นJoseph พ่อครัวชื่อดังเข้าทำงานให้กับBanca เขาได้พยายามหลบหนีออกจากคฤหาสน์ของเธอเมื่อเธอใข้กองทัพผีดิบทำสงครามก่อกบฏต่อจักรพรรดินีJuno จึงขอลาหยุด แต่เธอปฏิเสธ เขาจึงวางยาพิษในอาหาร แล้วกินเองส่วนหนึ่ง แต่ยาส่วนของเขาออกฤทธิ์เสียก่อนเขาจึงเสียชีวิต

การตื่นของบาป เจ้าแห่งสุสาน (墓場の主, Hakaba no Aruji/ Master of the Graveyard)


   ภาชนะแห่งตะกละที่ตื่นขึ้น และนับเป็นการฟื้นคืนชีพของBanica ซึ่งก่อนหน้านี้เธอได้นำวิญญาณของ Hansel จาก Lemmy Abelard (หมายเลข5 ปิเอโร) Gretel จากNey Marlon มาอยู่กับเธอในจอก และได้ฟื้นคืนชีพพร้อมกันโดยทั้ง2 เป็นคนรับใช้ของเธอเหมือนกับชาติที่เกิดเป็น Pollo กับArthe เธอมีหน้าที่จับกินผู้บุกรุกที่เข้ามาหาสมบัติที่Gallerian เก็บไว้ในโรงภาพยนต์แห่งความชั่วร้าย (ฉายา ชื่อจริงๆคือโรงภาพยนต์กลางป่า) อยู่ที่สุสานใกล้ๆโรงภาพยนต์ ภายหลังกายหยาบถูกทำลายวิญญาณของ Banica ได้กลับไปสิงสถิตอยู่ที่ๆเคยเป็นคฤหาสน์ของตนเองกับวิญญาณของ Hansel และ Gretel และเป็นหนึ่งวิญาณคนบาป ที่เจ้าแห่งทุ่งนรกภูมิไม่มาตามกลับลงนรก (เนื่องจากการตายของเธอนั้นไม่ค่อยธรรมดานักและไม่ได้ตกนรกไปพบเจ้าแห่งทุ่งนรกภูมิมาก่อน)

เพลง Master of the Graveyard (Graveyard party)
ซีรีส์ End of the Four
ผู้ร้อง MEIKO (Master of the Graveyard ), Len Kahamine (คนรับใช้), Rin Kagamine (คนรับใช้)





Superbia
อัตตา

"เอาละ คุกเข่าลงซะสิ"
"ถ้าเกิดว่าได้เกิดใหม่อีก"

ปี EC 499-510
เหตการณ์ การสมคบคิดอันชั่วร้าย รัชกาลแห่งความชั่ว สงครามสีเขียว การปฏิวัติLicifenia การศึก505 เหตุสี่ทหารม้าใหม่


คนบาป Riliane Licifen d'Autriche (ริลิแอน ลูซิเฟน โดทริช)
ชื่ออื่น บุตรีแห่งมารร้าย (ฉายา)
           Rin (ริน, ชื่อปลอม)

การกลับชาติ
Gretel =Ney Futapie
Adam =Kyle Marlon
รูปลักษณ์ต้น มณีแห่งอัตตา



ภาชนะแห่งบาป กระจกเงาทั้ง4แห่งLucifenia


ดูที่ ซีรีส์ Story of Evil

ปีศาจ ไม่ทราชื่อและรูปร่างถูกระบุเพียงเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กสีดำเท่านั้น

    หลักๆทั้งหมดเขียนไปในซีรีส์Story of Evil หมดแล้วขอเอาแค่การตีความพอ การตีความอันนี้ออกมาค่อนข้างตรง โดยที่รูปลักษณ์ต้นนั้นเป็นอัญญมณี ที่สื่อถึงความสูงส่ง ฟุ้งเฟ้อ และต่อมามันได้นำไปทำเป็นกระจกเงา 4 บาน ซึ่งสื่อถึงความหยิ่งผยองหลงตัวเองโดยตรง อันความสูงส่ง ฟุ้งเฟ้อ นั้นเป็นตัวนำมันมาเหมือนกับอัญมณีที่เอาไปทำเป็นกระจก ซึ่งกระจกนั้นมีไว้สะท้อนภาพ มีผู้วิเคราะห์ไว้ว่า อาจเกี่ยวกับนาร์ซิซัส ที่หลงใหลสะท้อนในบ่อน้ำของตน ตามตำนานกรีก และนาร์ซิซัส ก็เเป็นที่มาของคำว่าnarcissism ที่หมายถึงหลงตัวเอง ยิ่งผยอง ซึ่งตรงกับลักษณะของบาปนี้โดยสมบูรณ์ อีกอันหนึ่งคือมาจากนามสกุลของVocaloid Rin/Len Kagamine ซึ่งKagamiนั้นหมายถึงกระจก ซึ่งหมายความว่าสิ่งหนึ่งจะต้องมเงาสะท้อนกันเป็นคู่ ซึ่งมีการใช้เยอะมาก ทั้งเทพLevia กับเทพBehemo Hansel กับ Gretel Arthe กับ Pollo Riliane กับ Allen ผู้เฝ้ารอกับผู้แปลกแยก

     ถึงกระจกจะมี4บาน แต่มันไม่เคยปรากฏอยู่พร้อมกันเลยสักครั้งเดียว แม้ว่าGallerian จะครอบครองกระจกครบทั้ง4บานก็ตาม และการปรากฏแต่ละครั้งลักษณะกระจกไม่เหมือนกัน จึงยังสรุปไม่ได้ว่าตัวกระจกสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ หรือแต่ละบานมีลักษณะไม่เหมือนกัน ที่แน่นอนคือมีกระจกกลมอันเล็ก อย่างน้อย 1 บานที่ปรากฏในTwiright Prank และมีกระจกมือมีด้ามอีกอันหนึ่ง ที่Kyle ครอบครอง และเป็นบานที่กลายเป็นผู้เฝ้ารอ

การตื่นของบาป ผู้เฝ้ารอ (待つ者, Matsu mono/ Waiter)


    บริกรที่ทำงานอยู่ในโรงภาพยนต์ Evils Theater ปีศาจแห่งบาปที่เลียนแบบบุคลิกของ Riliane สมัยยังเป็นเจ้าหญิงมา ซึ่งหน้าตาและนิสัยของตัวเธอนั้นเป็นการรวมกันระหว่างRiliane กับ Allen (โดยไปทางRilianneมากกว่า)และเธอเฝ้ารออีกครึ่งหนึ่งของเธอ ผู้แปลกแยก


Acedia
เกียจคร้าน

"เอาละ จงหลับไปเสียเถิด"
"ถ้าเกิดว่าไม่ได้เกิดใหม่อีก"

ปี EC 609-611
เหตการณ์ ฆาตกรต่อเนื่องแห่งToragay นักเชือดแห่งRolled


คนบาป Margarita Blankenheim (มาการิตา บลันเกนไฮนม์)
ชื่ออื่น Margarita Felix (มาการิตา เฟลิกซ์, ชื่อเดิม)
           IV (หมายเลข4) เจ้าหญิงแห่งนิทรา (ชื่อรหัส)

การกลับชาติ
Hansel =Lemy Abelard
รูปลักษณ์ต้น สายลมแห่งเกียจคร้าน (ไร้รูปร่าง)



ภาชนะแห่งบาป ตุ๊กตาClockworker


ปีศาจ Eve Moonlit

    ข้อเกียจคร้านดูแล้ว Mothy เลือกที่จะตีความแตกต่างจากผู้อื่น โดยเลือกที่จะตีความในความหมายที่ว่า ความสิ้นหวัง ทุขระทม มากกว่าเกียจคร้านตามปกติสำหรับในตัวเพลง ซึ่งตีความแนวนี้ไม่ค่อยมีคนใช้เท่าไหร่กันนัก โดยความหมายที่ว่าเกียจคร้านนั้น จะไปหมายถึงตัวภาชนะแห่งบาป ปีศาจตัวแรกก่อนได้ความทรงจำคืน และร่างมนุษย์ในสภาพที่ตื่นแล้วมิเชล หรือเจ้าแห่งศาลแทน ซึ่งตัวตุ๊กตานั้นโดยปกติจะไม่ขยับถ้าไม่ไขลานสื่อถึงความเกียจคร้านโดยตรง

     ตัวภาชนะแห่งบาปนั้นแตกต่างจากอันอื่นมาก เพราะตอนต้นนั้น ถูกระบุว่าเป็นอากาศไร้รูปร่าง และเดิมใช้มนุษย์เป็นภาชนะ โดยจะสืบทอดความเป็นภาชนะจากรุ่นสู่รุ่น จนถึงรุ่นของMikulia Greeonio เมื่อเธออยู่ในฮาเร็มของSateriasis นั้นเธอได้รับตุ๊กตาClockworker จากIR และปีศาจได้ไปสถิตในตุ๊กตาแทน แต่ตัวเธอนั้นยังมีพลังของปีศาจตกค้างอยู่ และสืบทอดถึงลูกหลาน ทำให้ลูกหลานของเธอไม่สามารถโดนปีศาจแห่งบาปเข้าครอบงำได้(แต่ยังทำสัญญาได้)

     *สปอล์ย*ปีศาจตัวจริงคือ Eve Moonlit ซึ่งวิญญาณของ Eve นั้นรวมอยู่กับบาปต้นกำเนิดและถูกนำไปสร้างเป็นปีศาจ

     ตัวตุ๊กตานั้นทราบว่ามีอยู่2ตัว โดยตัวที่2นั้นเป็นเพียงตัวทำเลียนแบบไม่ได้เป็นภาชนะแห่งบาปแต่อย่างใด มีเพียงตุ๊กตาตัวแรกที่ทำด้วยดินที่ผสมโดย IR กับไม้ Nechuha ประกอบโดยโรงช่าง Gine เท่านั้น ตัวที่2นั้นสร้างมาในราวๆปี500 เป็นตุ๊กตาแบบเดียวกันแต่ไม่น่าใช้ดินแบบเดียวกันในการสร้าง จึงไม่น่ามีคุณสมบัติกรงวิญญาณ

     พลังของปีศาจนั้นคือการสะกดจิตหมู่ โดยสามารถควบคุมผู้อื่นให้หลับ หรือแก้ความทรงจำได้ (เหนือกว่าปีศาจแห่งราคะตรงที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆในการใช้งาน) และตัวตุ๊กตาสามารถแปลงเป็นมนุษย์ได้ แต่ร่างมนุษย์นั้นอาจไม่ใช่การแปลงจริงๆ ซึ่งบางคนอาจสามารถเห็นร่างจริงที่เป็นตุ๊กตาได้ ตรงนี้มีข้อขัดแย้งเล็กน้อยแต่น่าเกิดจากความแตกต่างของปีศาจแห่งเกียจคร้าน ทั้ง2ตัว

     ปีศาจนั้นคาดว่ามีอยู่2รุ่นเนื่องจากคุณสมบัติบางอย่างแตกต่างกันปีศาจตัวแรกนั้นสามารถแปลงเป็นมนุษย์ได้สมบูรณ์ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติยกเว้นไม่สามารถนอนหลับได้ ส่วนตัวที่2ที่มาหลังจากตัวแรกถูกEllukaผนึกในร่างตัวเอง และที่กลายเป็นเจ้าแห่งศาลนั้น ดูมีพลังน้อยกว่าตัวแรก ร่างแปลงเป็นมนุษย์นั้นไม่สามารถขยับตัวได้ถ้าไม่ได้รับการกระตุ้นโดยภาชนะชิ้นอื่น และคนที่ไม่ได้ถูกสะกดจิตจะมองเห็นเป็นแค่ตุ๊กตาธรรมดาๆ ไม่เหมือนตัวก่อนหน้าที่แม้คนเจอครั้งแรกก็เห็นเป็นมนุษย์ แต่ตัวที่2นั้นไม่ทราบข้อมูลใดๆทั้งสิ้นว่าเป็นวิณญาณของใครที่ได้พลังปีศาจมา

     ด้านเนื้อเรื่องนั้นจะไปเกี่ยวกับกลุ่มอาชญากร Père Noël ซึ่งคนบาปแห่งเกียจคร้านนั้นเป็นสมาชิกในชื่อว่า หมายเลข3 เจ้าหญิงแห่งนิทรา (The Third Princess of Sleep) และมีเพลงอื่นที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกคนอื่นในองค์กรนี้

    แต่คนบาปนั้นประหลาดสุด คนบาปนั้นคนอื่นจะเป็นมนุษย์ที่ทำสัญญากับปีศาจหรือโดนครอบงำ แต่ณที่นี้ ปีศาจคือคนบาปเอง เพราะMargaritaตัวจริงนั้นเสียชีวิตตั้งแต่เป็นทารกแล้ว คนในเรื่องนั้นคือตุ๊คตาที่แปลงเป็นMargaritaและหลอกว่าฟื้นคืนชีพขึ้นแต่ตุ๊กตาเองก็ความจำเสื่อมทำให้คิดว่าเป็นMargaritaไปจริงๆ

กลุ่มอาชญากร Père Noël

   เป็นองค์กรอาชญากรรมที่มีสมาชิกแกนกลางทั้งหมด7-8คน(แล้วแต่ปี)เรียกว่า Sept แต่มีระดับรองลงมาที่ไม่นับหมายเลขอีกมากมายแทรกซึมทั่วทั้งEvillious

รายชื่อ Sept

The First Santa Claus Julia Abelard ประธานาธิบดีสาธารณะรัฐLucifenia เป็นหัวหน้าสูงสุด

The Second Dealer Caspar Blankenheim ทำหน้าที่ควบคุมตลาดมืดประจำอยู่ที่Elphegort

The Second Blue Bruno Marlon (Kaidor Blankenheiem) พ่อของCaspar ได้ทำการฆาตกรรมและสวมรอยเป็นBruno มาตลอด 20 ปี ได้เข้ามาเป็น หมายเลข 2 ต่อจากลูกชาย แต่ภายหลังได้ถูกตำรวจจับในฐานฆาตกรรม และถูกหมายเลข 6 ลอบเข้าคุกไปฆ่าปิดปาก

The Third Princess of Sleep Margarita Blankenheim ฝ่ายวิจัยยาพิษGift ตามแผนเดิมคือพัฒนาGift จนใช้เป็นอาวุธได้(รุ่นที่6) และจะไปหลอกว่าเป็นโรคระบาดชนิดใหม่และผูกขาดยารักษาที่สะกัดจากน้ำเลี้ยงของพฤกษาพันปี หรือก็คือแผนบ่อนทำลายนิกายEldไปในตัว

The Fourth Shadow Mayrana Blossom ลูกศิษย์ และตัวตายตัวแทนของJulia เนื่องจากหน้าตาเหมือนกัน และทำด้านวินาศกรรมและปล่อยข่าวลวง รวมถึงหลอกMargarita ให้มาเข้าองค์กรด้วย ถูกสังหารโดยGumilia

The Fifth Clown (รุ่นแรก) เสียชีวิตราวๆ ปี 600 ไม่ทราบตัวจริง

The Fifth Clown Lemmy Abelard นักฆ่าขององค์กร ทำด้านลอบสังหาร ได้สังหารโสเภณีไปทั้งสิ้น 7 คน

The Sixth  Venom พลโท Gatt Colomb นายทหารของAsmodin ทำงานด้านลอบสังหาร พ่ายแพ้ในการดวลกับ Elluka ระหว่างการหลบหนีหลังเรื่องในองค์กรถูกเปิดโปง และถูกจับส่งตำรวจ

The Seventh  Magician Yuzette Ora / Isabel Ismael (ชื่อปลอม) หมอดูผู้ได้รับดาบอสรพิษจากหมายเลข 1 ทำหน้าที่เปลี่ยนหน้าตาให้กับอาชญากรณ์ในเครือข่ายเพื่อช่วยในการหลบหนี ภายหลังได้หลบหนีออกมาตามคำเตือนของหมายเลข 6 พร้อมกับเอาดาบอสรพิษไปด้วย แต่ถูกตามสืบตัวจนเจอและถูกสังหารโดย Lemmy

The Seventh  Magician Elluka Clockworker เข้าไปโดยโกหกว่าตัวเองเป็นปีศาจเกียจคร้ายที่สิงร่างของ Elluka อยู่

The Eighth Sniper Gumilia เข้าไปโดยแกล้งทำเป็นโดนปีศาจเกียจคร้านสะกดจิต

Gift

      Gift คือยานอนหลับและยาพิษชนิดหนึ่งที่สืบทอดกันต่อๆมาโดยหมอผีแห่งMerigod Giftนั้นแบ่งเป็น 8 รุ่นดังนี้
รุ่นที่ 1 Gift ดั้งเดิม เป็นยานอนหลับแขนงหนึ่งไม่เป็นอันตรายใดๆหากไม่ใช้ผิดวิธี
รุ่นที่ 2 Gift ของตระกูลRogze เป็นรุ่นปรับปรุงให้เป็นยาพิษโดยตรง เพียงหยดเดียวก็สามารถฆ่าคนได้ ถูกสร้างเพื่อลอบปลงพระชนม์พระเจ้าArth ที่1
รุ่นที่ 3 รุ่นทดลอง สูตรปรับปรุงโดยMargarita เป็นรุ่นที่ทำมาเพื่อทดลองเท่านั้น
รุ่นที่ 4 รุ่นที่Margarita ใช้ในการฆาตกรรมสามีตัวเอง
ร่นที่ 5 รุ่นหน่วงเวลา รุ่นที่ลดความรุนแรงลงทำให้ไม่ตายในทันที แต่ก็อ่อนลงจนพอมีโอกาสรอดชีวิตอยู่บ้าง
รุ่นที่ 6 รุ่นแพร่อากาศ มีลักษณะเป็นอาวุธเคมีที่มีอาการเหมือนโรค เป็นแก๊สพิษจึงสามารถแพร่กระจายผ่านอากาศได้ร้ายแรงกว่าGuala ที่แพร่กระจายผ่านทางเดินอาหาร
รุ่นที่ 7 "ยาแห่งการตื่น" Gift ที่สมบูรณ์ รุ่นที่Margaritaใช้ฆ่าตัวตาย แต่เป็นการไปปลุกความทรงจำของEve หรือปีศาจแห่งเกียจคร้านแทน
รุ่นที่8 รุ่นวิญญาณ Margarita ทำขึ้นเมื่อวิญญาณกลับสู่โลกมนุษย์เมื่อวันสิ้นโลก มีลักษณะเป็นแก๊สพิษเช่นเดียวกับรุ่นที่ 6 มีผลแม้กระทั่งวิญญาณ

เพลงหลัก 眠らせ姫からの贈り物 (Nemurase Hime Kara no Okurimono, Gift from the Princess who Brought Sleep/ Belphegor's gift)
ผู้ร้อง Miku Hatsune (Margarita Blankenheim)


(ไม่สปอล์ย เท่าแค่ในเพลง)

    มาคิโอเนส Margarita Blankenheim ได้พบว่าสามีของเธอ มาร์ควิสCaspal Blankenheim มีชู้ต่อหน้าต่อตาของเธอ และแต่งงานกับเธอเพราะต้องการในเงินทองของพ่อที่เป็นหมอของเธอเท่านั้น และลืมคำสัญญาสมัยเด็กๆของทั้งสองไปเสียแล้ว เธอได้เรียนวิธีทำยาจาก Julia Abelard เพื่อนสนิทของเธอ เธอได้มอบยานั้นแก่ทุกคนในเมืองที่มีความทุข ให้พวกเขาหลับไป สุดท้ายก็เหลือเธอคนเดียว เธอได้รับทั่งเงินทองและอิสรภาพมาแล้ว และสุดท้ายเธอก็ได้กินยา เปลี่ยนตัวเองจาก "เจ้าหญิงผู้มอบนิทรา" เป็น "เจ้าหญิงนิทรา"

เพลงที่เกี่ยวข้อง
五番目のピエロ (Gobanme no Piero, The Fifth Clown/ The end of Hansel)
ผู้ร้อง Len Kagamine (Lemy Abelard)




   Lemy Abelard (สมาชิกPere Noel หมายเลข 5 ตัวตลก) ได้ถูกสอนจากแม่บุญธรรม Julia Abelard (หัวหน้าPere Noel หมายเลข1 ซานตาครอส) ว่าโลกเป็นที่ๆเต็มไปความผิดพลาด เขาต้องลงโทษ"เด็กไม่ดี" เขาเล่นฟลุ๊ตในโรงละครสัตว์ที่ว่างเปล่ายามค่ำคืน เปลี่ยนสีดำให้เป็นสีแดง วันหนึ่งเขาถูก หมายเลข7 นักมายากล ชวนให้หนีออกจากองค์กร แต่เขาเอาไปฟ้องJulia ต่อมาคืนหนึ่งในขณะที่เขากำลังดักรอเป้าหมายอยู่นั้น เขาถูกยิงโดยหมายเลข8 นักแม่นปืน ในขณะที่เขากำลังจะตายนั้น เขาเห็นพ่อแม่ที่แท้จริงของเขายิ้มให้ (หมายเหตุจุด นี้ในนิยายโดนตัดทิ้งเปลี่ยนเป็นเห็น Conchita แทน) และก่อนที่เขาจะตายเขาเห็นหมายเลข 7 นักมายากล หัวเราะแล้วบอกว่าเขาน่ายอมหนีไปด้วยตั้งแต่แรก หลังเขาตายไปJulia ได้ส่งจดหมายไปถึงพี่สาวของเธอ Elluka Clockworker หรือหมายเลข 7 นักมายากล ให้เจอกันที่ที่ราบสูงMerigod โดยลงชื่อไว้ว่า Irina Clockworker

การตื่นของบาป เจ้าแห่งศาล (法廷の主, Houtei no Nushi/ Master of the Court)


     ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าตัวเธอเป็นใคร ทราบแต่เพียงว่าอยู่ในตุ๊กตามาตั้งแต่สมัย Venomania เป็นเจ้าแห่งศาลมาตั้งแต่ต้น และไม่ใช่ปีศาจตนแรก (วิญญาณ 2 ดวงสามารถอยู่ในภาชนะเดียวกันได้) เธอถูกใช้โดย Irina ในการเปิดมิติไปสู่ศาลในความพยายามที่จะสังหาร Levia

     Gallerian คนบาปแห่งโลภะได้เธอมาโดยนึกว่าเป็นลูกสาวที่ตายไปแล้วของเขา โดยเขามองเห็นเธอเป็น Michelle และเธอมองเขาเป็นพ่อเช่นเดียวกัน เธอเดินไม่ได้เนื่องจากร่างตุ๊กตาส่วนขาได้สร้างจากวัสดุที่อ่อนนุ่มกว่าส่วนอื่น หลังจากGallerianตาย เธอได้ถูกไฟเผาจนเสียหายอย่างหนัก Ma จึงได้นำตัวเธอและภาชนะแห่งบาปของGallerian ทั้งหมดไปไว้ยังที่โรงภาพยนต์Evils Theater และเชื่อมโยงเธอกับหอนาฬิกาแห่งชีพจร ให้เป็นระบบช่วยชีวิต บางครั้งเธอได้ร้องเพลงเวทมนต์Clockwork Lullaby ต่อมาฟันเฟือง ซึ่งเป็นปีศาจแห่งโลภะที่ตื่นขึ้น ได้ยอมเสียสละพลังของตนเองมอบให้กับเธอ ทำให้เธอกลับมาหายดีและสามารถเดินได้

     เธอได้สืบทอดเจตนารมณ์ของGallerian โดยเธอได้วางแผนที่จะใช้พลังของบาปทั้ง7 และส่งมนุษย์ทุกคนไปยังนรก และเปลี่ยนนรกให้กลายเป็นแดนสุขาวดี เธอได้กลายเป็นเจ้าแห่งศาลสืบต่อจากGallerian เธอตัดสินประหารทุกคนที่หนีรอดจากนายแห่งสุสานมาได้

     ในตัวเธอนั้นมีกล่องที่บรรจุ Irregular บรรจุไว้อยู่เธอได้ปฏิบัติกับเขาเหมือนลูกในท้องใช้เวท Clockwork Lullaby ชำระบาปของเขาเพื่อเตรียมการสำหรับการฟื้นคืนชีพ เจ้าแห่งศาลได้เสียชีวิตหลังจากให้กำเนิดIrregular และกลับร่างเป้นตุ๊กตาที่ว่างเปล่าไม่มีวิญญาณใดๆทั้งสิ้น จนกระทั่งHansel นำไปใช้ขังวิญญาณ Margarita

     แม้พลังในฐานะปีศาจจะด้อยกว่าของปีศาจตนแรกก็ตาม แต่เธอมีพลังในฐานะเจ้าแห่งศาลที่สามารถเปิดมิติไปสู่ศาล ที่ๆเทพเจ้าและปีศาจสามารถตายได้

     เป็นที่ยืนยันแล้วว่าตอนช่วงJudgement of Corruption นั้นภาชนะยังไม่ตื่น Gallerian เพียงแค่โดนสะกดจิตเท่านั้น เนื่องจากMichel และเจ้าแห่งศาลนั้นหน้าตาไม่เหมือนกัน  โดยที่Michelนั้นมีผมสีเขียวสด แต่เจ้าแห่งศาลมีผมสีฟ้าอมเขียว และคนอื่นๆเห็นเธอเป็นแค่ตุ๊กตาธรรมดากันทุกคน

เพลง Master of the Court (Successor of the court)
ซีรีส์ End of the Four
ผู้ร้อง Miku Hatsune ( Master of the Court)




Invidia
ริษยา

"เอาละ เริ่มทำงานกันดีกว่า"
"ถ้าเกิดว่าไม่ลืมแล้วละก็"

ปี EC 842
เหตการณ์ ฆาตกรรมในEnbizaka
คนบาป Kayo Sudou (คาโยะ สุโด)
รูปลักษณ์ต้น น้ำพุแห่งริษยา


ภาชนะแห่งบาป ดาบแฝดแห่งLeviantha


ปีศาจ Rahub Barrisol (ราหับ บาริซอล)
การกลับชาติ/อวตาร
Allen Avadonia = Kokudan-Douji (โคะคุดัน-โดจิ)
Riliane Licifen d'Autriche = Rin Miroku (ริน มิโระคุ)
Behemo Barrisol = Bufuko (บุฟุโกะ)


    ข้อนี้แตกต่างจากข้ออื่นๆตรงที่ไม่ได้เกิดขึ้นในEvillious แต่เกิดขึ้นในประเทศทางตะวันออกที่เรียกว่า Jakoku

    เดิมทีนั้นมันเป็นดาบแฝดแห่งแห่งLeviantha ประมาณEC 510 หลังเหตุสี่ทหารม้า Chartette Langley ได้นำดาบแฝดหนีไปยังJakokuและตีใหม่เป็นกรรไกร2อัน อันหนึ่งแบบตะวันออก อีกอันแบบตะวันตก และมอบให้กับบรรพบุรุษของKayo Sudou เพื่อซ่อนมันจากAbyss I.R.

    การตีความนั้น กรรไกรนั้นจะมีใบมีดเป็นคู่ และมีไว้ตัดสิ่งต่างๆ ตีความได้ว่าคือคู่รัก ที่ตัดทุกสิ่งที่ไม่ต้องการออกไป และไม่อยากแยกออกจากกันหรือก็คือความหึงหวงที่เป็นความริษยาแบบหนึ่ง และการที่มันต้องอยู่เป็นคู่นั้นหมายถึงความซื่อสัตย์ต่อความรัก ส่วนภาชนะต้นนั้นเป็นน้ำพุเกี่ยวกับเลเวียธาน พญามารแห่งริษยา ซึ่งมีลักษณะเป็นงูทะเลหรือสัตว์ประหลาดในน้ำ ซึ่งน้ำพุนั้นเป็นแหล่งของน้ำ

    ร่างจริงของปีศาจมีรูปลักษณ์เป็นปลาซึ่งยกมาจากเลเวียธานแทบจะตรงๆเลยทีเดียว แต่ปีศาจมีอีกร่างที่เป็นผู้หญิงครึ่งปลา (ถูกเรียกว่านางเงือก แต่ไม่ใช่หน้าตาแบบนางเงือกทั่วไปแต่จะออกแนวSahaginมากกว่าจากคำบรรยาย) ส่วนชื่อRahub อันเป้นชื่อจริงนั้นมีทฤษฏีอยู่2ทางที่น่าเป็นไปได้ทั้งคู่คือชื่อของป๊ศาจน้ำตามตำนานยิว และชื่อหญิงโสเภณีในไบเบิล

เพลง 円尾坂の仕立屋 (Enbizaka no Shitateya, The Tailor of Enbizaka/ Leviathan slope)
ผู้ร้อง Luka Megurine (Kayo Sudou)


(ไม่สปอล์ย เท่าแค่ในเพลง)

    Kayo Sudou เป็นช่างตัดเสื้อในJakoku ประเทศเกาะทางตะวันออก เธออยู่อาศัยร่วมกับมารดาสามีและลูก จนกระทั่งวังหนึ่งได้เกิดไฟไหม้พรากGakugaสามี และRenลูกของเธอไป เธอที่ตกอยู่ในความสิ้นหวังได้พบกับ Elluka ที่มายังJakokuในฐานะครูสอนศาสนา Ellukaได้ช่วยให้เธอได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ และสลับร่างกัน และEllukaก็ได้เอากรรไกรไปและทิ้งของปลอมเอาไว้ Kayoได้กลับไปเปิดร้านตัดเสื้อที่ Enbizaka เธออยู่อย่างสงบสุขจนวันหนึ่งเธอได้เห็นKai Miroku ชายที่หน้าตาเหมือนคนรักของเธอเดินกับ Mei ผู้หญิงกิโมโนแดงภรรยาของเขา  เธอเชื่อว่านั่นคือสามีของเธอจริงๆและยังมีชีวิตอยู่เธอได้ฆ่าผู้หญิงคนนั้นด้วยกรรไกรอีกอันที่เหลือของเธอ และตัดเย็บกิโมโนสีแดงสำหรับตัวเอง  ต่อมาเธอได้เห็นชายที่เหมือนกับสามีอยู่กับ Miku ผู้หญิงโอบิเขียวลูกสาวของเขา เธอได้ฆ่า Miku ด้วยกรรไกรเช่นเดียวกัน และตัดเย็บโอบิสีเขียวสำหรับตัวเอง ต่อมาอีกเธอได้เห็นชายคนนั้นอยู่กับ Rin เด็กผู้หญิงปักปิ่นสีเหลืองลูกสาวคนเล็ก ที่หน้าร้านขายปิ่นปักผม และเธอก็ได้ฆ่าเด็กผู้หญิงพร้อมเอาปิ่นปักผมของเธอมา แต่คนรักของเธอก็ยังไม่กลับมาหา เธอจึงไปดักรอKaiนั้นเธอสวมกิโมโนสีแดง โอบิสีเขียว และปักปิ่นสีเหลือง เธอเชื่อว่ามันเป็นสิ่งงดงามสำหรับเขา เป็นแบบที่เขาจะชอบ แต่เขาได้ทักทายเธอราวกับเป็นคนแปลกหน้า เธอโกรธจัดและฆ่าเขา ความจริงแล้วเธอได้ฆ่าครอบครัวๆหนึ่งไปโดยเข้าใจผิดว่าเป็นสามีของเธอกับชู้ ในขณะที่ทั้งเมืองกำลังแตกตื่นนั้นเธอยังทำงานต่อไปด้วยกรรไกรในมือเธอ


(สปอล์ย) (เรื่องตามความเป็นจริง)

     Kayo Sudou เป็นช่างตัดเสื้อในJakoku ประเทศเกาะทางตัวันออก เธออยู่อาศัยร่วมกับมารดาสามีและลูก จนกระทั่งวังหนึ่งได้เกิดไฟไหม้พรากพรากGakugaสามี และRenลูกของเธอไป เธอที่ตกอยู่ในความสิ้นหวังได้พบกับ Elluka ที่มายังJakokuในฐานะครูสอนศาสนา Ellukaได้ช่วยให้เธอได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ และสลับร่างกัน และElluka ก็ได้เอากรรไกรไปแล้วทิ้งของปลอมเอาไว้ Kayoได้กลับไปเปิดร้านตัดเสื้อ Enbizaka เธออยู่อย่างสงบสุขจนคืนหนึ่ง เธอเกิดฝันสีม่วงรู้ความจริงว่าKai คือผู้จุดไฟในครั้งนั้นเนื่องด้วยเขาเป็นสมาชิกสมาคมต่อต้านชาวต่างชาติจึงได้จุดไฟเผาโกดังของชาวต่างชาติ แต่ไฟเกิดลามไปจนใหม้ทั้งEnbizaka Kayoจึงเกิดความแค้นที่ตนเองต้องสูญเสียทุกสิ่ง ในขณะที่Kai ยังคงอยู่กับครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา จึงได้ก่อคดีขึ้น เรื่องที่ว่ามีชู้นั้นเป็นแค่คำให้การตอนถูกพิจารณาคดีเท่านั้น

เพลงที่เกี่ยวข้อง
野ざらしの首、鬼ヶ島にて (Nozarashi no Kubi Onigashima Nite,The Weathered Head at Onigashima)



การตื่นของบาป ไม่ทราบ

Rahub Barrisol

(ตัวแทน) จอมเวทแห่งกาลเวลา


ชื่ออื่นๆ Ma (นามสมมุติ) Kayo Sudou (ชื่อร่าง)

    Ma คือวิญญาณที่หลอมรวมกันของEve Elluka(Levia) และ Irina ซึ่งเป็นผลจากการดวลที่ที่ราบสูงMarrygod เป็นเพื่อนสนิทและภรรรยาน้อยของ Gallerian หลังจากGallerian ตายเธอได้นำภาชนะแห่งบาปและสมบัติที่เหลืออยู่ของ Gallerian มาไว้ที่โรงละครกลางป่า ทำหน้าที่เป็นคนสวนคอยตักเตือนคนที่เข้ามาในป่า เช่นไม่ควรยุ่งและไม่ควรเจอกับเจ้าแห่งสุสาน เธอมักชวนคนที่เข้ามาถึงโรงภาพยนต์ให้ดูภาพยนต์ประวัติศาสตร์ Evillious ที่เธอทำพร้อมอธิบายประกอบ หลังจากดูจบทั้ง15เรื่องแล้ว เธอจะส่งตัวผู้บุกรุกไปให้เจ้าแห่งศาลประหาร (ซึ่งยังมีโอกาสแม้เพียงน้อยนิดที่เจ้าแห่งศาลจะไว้ชีวิต) หลังจากที่Gammon ได้มาเป็นคนสวนคนใหม่เธอก็ได้เปลี่ยนไปเรียกตัวเองว่าจอมเวทแห่งกาลเวลา และเริ่มแต่งบทละครเพิ่มโดยมีGammonเป็นผู้ช่วย Ma เป็นมนุษย์ไม่กี่คนที่มีชีวิตรอดหลังจากพื้นที่ส่วนใหญ่โลกถูกทำลายล้างโดย Nemesis


Acedia
โลภะ

"เอาละ ได้เวลาพิพากษาแล้ว"
"ถ้าเกิดว่าได้เป็นมนุษย์"

ปี EC 983
เหตการณ์ เหตุอื้อฉาวนิลดารา สงครามกลางเมืองLeviantha

คนบาป Gallerian Marlon (แกลเลอเรียน มาร์ลอน)
ชื่ออื่น นักสะสม (ฉายา)
           เจ้าแห่งศาล (ฉายา)
           Santa Claus (ชื่อรหัส)
           Mr. Pere Noel (เรียกโดยNemesis)

รูปลักษณ์ต้น ดินแห่งโลภะ

ภาชนะแห่งบาป ช้อนแห่งMarlon (ชื่อเดิม ช้อนสีฟ้า)


     ยุคของข้อโทสะเป็นยุคที่สำคัญที่สุดเป็นอันดับ2 ในยุคของทั้ง7บาป ข้ออัตตานั้นเชื่อมทุกอย่างของครึ่งแรกเข้าด้วยกัน และปูพื้นสำหรับครึ่งหลัง ส่วนนี่คือจุดเริ่มต้นของจุดจบ กับความปรารถนาที่จะเปลี่ยนนรกให้กลายเป็นแดนสุขาวดีของGallerian

     ตัวความหมายของรูปลักษ์ต้นนั้นออกแนวประชด ดินแห่งโลภะนั้นเป็นทรายในนาฬิกาทรายที่สื่อถึงความไม่จีรังยั่งยืนของทรัพย์ทางกาย และดินนั้นเป็นที่มาของของมีค่าต่างๆเช่นทองเพชรพลอย ส่วนภาชนะแห่งบาปนั้น มาจากช้อนเงินนำโชคลาภ ซึ่งช้อนอันนี้เป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าโชคลาภนั้นได้มาทางใดด้วย ถ้าทางสุจริตมันจะช่วยให้ดีขึ้น (แต่อาจจะมีผลลบทางอื่นแทน) ถ้าทางทุจริตจะทำให้ถลำลึกไปเรื่อยๆในทางต่ำ ตัวช้อนนั้นสามารถเสกไฟสีฟ้ามาได้ นั้นสื่อถึงธรรมชาติของความโลภที่กลืนกินทุกสิ่งดังไฟที่ลุกใหม้

     แต่ที่ประชดถึงที่สุดคือตัวช้อนที่ตื่นขึ้นนั้นกลับยอมสละพลังทุกอย่างให้แก่ตุ๊กตาClockworker จนตัวเองไม่เหลือพลังอะไรทั้งสิ้น ตรงข้ามกับความโลภโดยสิ้นเชิง และตัวคนบาปที่โลภนั้นไม่ได้เป็นไปเพื่อตนเองแม้แต่นิดเดียว แต่ทำเพื่อช่วยตัวสำนักศาล และลูกสาวของตัวเองทั้งสิ้น เนื้อแท้ของตัวเองนั้นเป็นแค่คนขี้เหนียวเฉยๆ

เพลงหลัก 悪徳のジャッジメント (Akutoku no Jajjimento, Judgment of Corruption/ Mammon's court)
ผู้ร้อง KAITO (Gallerian Marlon)




(ไม่สปอล์ย เท่าแค่ในเพลง)

     ตุลาการสูงสุดแห่งสำนักศาลนิลดารา แห่งสหพันธรัฐEvilious Gallerian Marlon ผู้มีฉายาว่าเจ้าแห่งศาล ผู้อื้อฉาวในการทำให้ "คนพาลเริงร่า คนดีร่ำไห้" เพียงแค่จ่ายเงินมาก็ทำให้พ้นผิด หรือส่งผู้บริสุทธิ์ไปตายก็ได้ ที่จริงแล้วเขาต้องการเงินไปเพื่อรวบรวมภาชนะแห่งบาป เพื่อรักษาMichelle ลูกสาวที่เป็นอัมพาต ครั้งหนึ่งเขาตัดสินคดีอาชญากรสงครามให้พ้นผิด แต่มันได้ทำให้เกิดเป็นสงครามกลางเมืองในLeviantha คฤหาสน์ของเขาถูกเผาไปพร้อมกับตัวเขา หลังเขาตายวิญญาณของเขาได้ไปสู่ทุ่งนรกภูมิ และได้พบเจ้าแห่งทุ่งนรกภูมิ ผู้ตัดสินคนตาย ว่าจะลงนรกหรือขึ้นสวรรค์ เธอได้เสนอว่าถ้าเขาสละทรัพย์สินของเขาให้กับเธอ แล้วจะทำให้เขาไม่ต้องตกนรก แต่เขาปฏิเสธแล้วยอมตกนรก เขาได้คิดที่จะทำให้นรกนั้นกลายเป็นแดนสุขาวดีของเขาและลูกสาว

(สปอล์ย)

     Gallerian Marlon ผู้พิพากษาอัจฉริยะ ผู้ได้เป็นตุลาการสูงสุดแห่งสำนักศาลนิลดารา แห่งสหพันธรัฐEvilious ที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ เขาได้รู้จักกับนักเขียนบทละคร Ma ต่อมาได้เป็นคนรักกันแล้วมีลูกสาว1คนอย่างลับๆ ซึ่งต่อมาได้มาขอให้เขาเป็นผู้สนับสนุนในการสร้างภาพยนต์จากนิยายเรื่อง The Daughter of Evil ของYukina Freesis และได้รับหนังสือมาจากเธอ เขาได้อ่านมันจนจบในตอนที่ภรรยาและลูกสาวของเขาไปต่างประเทศ และได้คุยกับMa เกี่ยวกับเรื่องนี่กับประวัติศาสตร์ที่เชื่อกัน แต่ได้ปฏิเสธที่จะลงทุน เธอได้บอกเขาว่าจริงๆเธอต้องการให้เขาช่วยรวบรวม ภาชนะแห่งบาป แต่เขาปฏิเสธเพราะเขาพอใจในสิ่งที่ตนมี ต่อมาเขาได้ทราบว่าภรรยาหลวงและลูกสาวของเขาถูกปลาหมึกยักษ์เข้าโจมตี ภรรยาของเขาเสียชีวิต และMichelle ลูกสาวของเขาอัมพาต โดยไม่รู้ว่านั่นเป็นตุ๊กตาClockworker ที่ตื่นขึ้นมาเป็นร่างมนุษย์แล้วปลอมมา โดยที่ลูกสาวตัวจริงเสียชีวิตไปพร้อมกับภรรยาของเขาแล้ว

     2 ปีต่อมาMa กลับมาอีกครั้งพร้อมบอกว่าถ้ารวบรวมภาชนะแห่งบาปทั้ง7ได้ครบ เขาจะรักษาลูกสาวได้ เขาจึงยอมรวมรวมภาชนะแห่งบาป Maได้ให้ช้อนสีน้ำเงินกับเขา และเขาก็ได้ทำสัญญากับปีศาจ เพราะต้องการเงินเพื่อช่วยMichelle และให้สามารถพูดคุยกับMichelle (ซึ่งความจริงมันคือการคุยกับปีศาจแห่งระทม แต่ยังไม่สามารถขยับเขยื่อนได้โดยอิสระ และยังไม่สามารถพูดได้ ต้องรอจนถึงหลังจากGallerianตายไปแล้ว ในยุคEvils Theater ที่เธอได้รับพลังของปีศาจแห่งโลภะมา) ประกอบกับสำนักศาลนิลดาราได้ถูกตัดงบประมาณจากรัฐบาลกลาง เขาจึงเริ่มรับสินบนเพื่อลดโทษให้กับอาชญากร และพลังของช้อนก็ได้ทำให้มันรุนแรงขึ้น จนมีคนผิดลอยนวลด้วยสินบนกันไปมากมาย

      จนกระทั่งถึงEC 983 เขาได้ตัดสินนายพลTony Ausdin อาชญากรสงคราม และฆาตกรต่อเนื่อง ให้พ้นผิดจากการที่เป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมขบวนการโกงกิน เรื่องของเขาถูกเปิดโปงและได้เกิดการจราจลที่นำไปสู่สงครามกลางเมืองLeviantha คฤหาสน์ของเขาถูกเผาโดยผู้ชุมนุม ระหว่างที่ไฟลุกใหม้นั้นNemesis ได้บุกเข้าไปและยิงเขาที่หัวจนเสียชีวิต หลังเขาตายวิญญาณของเขาได้ไปสู่ทุ่งนรกภูมิ และได้พบเจ้าแห่งทุ่งนรกภูมิ ผู้ตัดสินคนตาย ว่าจะลงนรกหรือขึ้นสวรรค์ เธอได้เสนอว่าถ้าเขาสละทรัพย์สินของเขาให้กับเธอ แล้วจะทำให้เขาไม่ต้องตกนรก แต่เขาปฏิเสธแล้วยอมตกนรก เขาได้คิดที่จะทำให้นรกนั้นกลายเป็นแดนสุขาวดีของเขาและลูกสาว


เพลงที่เกี่ยวข้อง
箱庭の少女 (Hakoniwa no Shoujo, Miniature Garden Girl/ Clockwork lullaby II)
ซีรี่ส์ Clockwork lullaby


    เพลงของตุ๊กตาClockworker และพ่อของเธอ เธอไม่สามารถออกไปจากห้องของเธอได้ เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกภายนอกทั้งสิ้น แต่เธอบอกว่าไม่เป็นไร เพราะพ่อของเธอดูแลเธอด้วยความรัก เธอมักอยู่ในห้องนั้นและร้องเพลงให้กับเขา ในห้องนั้นมีของหลายอย่างประดับเอาไว้ ของเหล่านั้นได้พูดกับเธอ และเธอได้รู้ว่าเธอก็เป็นแบบเดียวกับของเหล่านั้น ต่อมาวันหนึ่งเธอก็ได้ยินจากพ่อของเธอว่าเกิดสงครามขึ้น และห้องนั้นกำลังลุกไหม้ ในซากคฤหาสน์นั้นมีศพชายผู้หนึ่ง กับตุ๊กตาที่ถูกเผาจนเสียหาย

(เพลงนี้เป็นครั้งแรกที่ภาชนะแห่งบาปปรากฏขึ้น และโครงเรื่องของEvillious ยังไม่เรียบร้อยดีเป็นแค่ฉบับร่างแรกๆ ดังนั้นกรุณาอย่าไปใส่ใจภาพในPV ที่ตุ๊กตาClockworker สามารถยืนได้)

การตื่นของบาป ฟันเฟือง (歯車, Haguruma/ Gear)


     ผู้พิทักษ์หอนาฬิกาแห่งชีพจร จนกระทั่งวันหนึ่งนาฬิกาก็ได้พังลง และตุ๊กตาClockworkerกำลังจะตาย เขาจึงเสียสละหัวใจของตนเชื่อมต่อกับหอนาฬิกาให้มันทำงานต่อไปได้ และตุ๊กตาก็ได้รับพลังทั้งหมดของช้อนแห่งMarlon ตัวเขาเหลือเพียงเปลือกนอกของภาชนะแห่งบาปเท่านั้น และไม่สามรถเข้าไปในโรงภาพยนต์ใหญ่ได้

เพลง ハートビート・クロックタワー (Heartbeat Clocktower/ Clockwork lullaby4)
ซีรีส์ Clockwork lullaby






Ira
โทสะ

"เอาละ จงสำนึกเถิด"
"ถ้าเกิดว่าเราเริ่มต้นใหม่ได้"

ปี EC 983
เหตการณ์ สงครามกลางเมืองLeviantha

คนบาป Nemesis Sudou (เนเมซิส สุโด)
ชื่ออื่น 8 (Eight, ชื่อรหัส)

รูปลักษณ์ต้น ป่าแห่งโทสะ


ภาชนะแห่งบาป Grimm the End หรือ กุญแจทองคำ/มีดทองคำ


    โทสะนั้นเป็นเรื่องในยุคเดียวกับโลภะ ซึ่งจากการกระทำของGallerian ได้สร้างความโกรธแค้นให้กับคนมากมายแล้วมันก็มากรรมสนองที่ตรงนี้

    ภาชนะนั้นในสภาพกุญแจ สามารถขูดเอาผงทองจากกุญแจไปผสมยาต่างๆได้ โดยที่ฤทธิ์รักษาจะแรงขึ้น ถ้าเป็นยาพิษก็จะพิษแรงขึ้นเช่นกัน และสามารถส่งผลต่อผู้ทำสัญญากับปีศาจ และทำให้ปีศาจอ่อนแอลงได้ และมันสามารถเปลี่ยนเป็นมีดหรืออาวุธอื่นๆ เช่นดาบ กริช กระสุนปืนได้ ซึ่งตัวกุญแจมีความสามารถเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆอยู่แล้ว ในสภาพมีด มันเป็นอาวุธที่สามารถทำร้ายปีศาจแห่งบาปได้ แผลที่ถูกแทงเลือดจะไหลไม่หยุดจนตายแม้โดนแทงเพียงแผลเดียวก็ตาม และมีพลังถึงขั้นที่ถ้าถูกผนึก มันสามารถปลดผนึกตัวเองได้ และสามารถแสดงร่างหรือเลียนเสียงของคนที่ผู้ครอบครองรัก เพื่อยุยงให้ไปฆ่าคนอื่นได้

     ความสามารถที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างตัวเองได้นั้น หมายถึงความแปรปรวนของความโกรธ และตัวกุญแจนั้นได้ถูกใช้เป็นอุปกรณ์ในการฆ่าและพยายามฆ่าถึงหลายครั้ง ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นคนชั่วหรือเคยชั่ว ตัวกุญแจจึงสื่อว่า ความโกรธแค้นนั้น เป็นกุญแจสู่กรรมตามสนอง และการล้างแค้น และการทวงความยุติธรรมแบบผิดๆ หรือก็คือศาลเตี้ย ซึ่งพบได้เต็มไปหมดในหน้าประวัติศาสตร์ และหน้าข่าวทุกวันนี้ ว่าความโกรธแค้นอย่างเดียวนั้นมันทำอะไรได้บ้าง จริงอยู่ว่าคนนั้นเป็นคนไม่ดี แต่การไปฆ่าเขาคนที่ฆ่าก็เป็นบาปด้วยเช่นกัน ซึ่งในเพลงจะเห็นได้ชัดถึงกรรมสนองต่อกันไปเรื่อยๆเป็นกงกำกงเกวียน Nemesisฆ่าMichelle > Gallerian ให้Nemesis ฆ่าคนรักของเธอ >Nemesis ฆ่าGallerian อนึ่งมีคนบาปถึง 4 คนที่ถูกสังหารโดยมันดังนี้
1.Seteriasis Venomania ถูกแทงด้วยมีดทองคำ
2.Banica Conchita ปีศาจอ่อนแรงลงจากพิษของผงทองคำ
3.Kayo Sudou ตัดหัวด้วยดาบทองคำ
4.Gallerian Marlon โดนยิงด้วยกระสุนทองคำ

     อันที่จริงที่โทสะอยู่อันสุดท้าย เพราะบาปอื่นๆนั้นมันจะไปก่อให้เกิดโทสะ โดยในเพลงยกสัญลัษณ์จากบาปก่อนๆมาแทนกระสุน6นัดในลูกโม่ กระสุน 6 นัดนั้นถูกระบุว่าทำจากกุญแจทองคำ แต่ไม่แน่ชัดว่านำผมทองมาหลอมหรือเปลี่ยนรูปร่าง

     ป๊ศาจแห่งโทสะมีอยู่2-3 ตน ตนแรกคือ Seth Twiright ที่เป็นหนึ่งในวิญญาณของ 6 พระวงศ์ที่ถูกนำมาทำเป็นปีศาจตั้งแต่ต้น อีกตนคือ Adam ซึ่งเป็นวิญญาณที่มาอาศัยด้วยและได้อำนาจปีศาจมาเช่นกันแต่ด้อยกว่า หลังจากการดวลที่ Marrygod วิญญาณของSeth ได้หลุดไปสู่ทุ่งนรกภูมิพร้อมกับ Gumilia และร่วมมือกันเพื่อหาทางออกจากทุ่งนรกภูมิ ส่วนวิญญาณอดัมนั้นหนีออกจากภาชนะแต่ไม่ทราบว่าหนีไปอยู่ไหนและกลับมาหรือไม่

นี่คือบทร่างของช่วงโทสะและหลังจากนั้นกรุณาระวังการสปอล์ย


Nemesis

เธอเป็นดั่งความโกรธแค้นอันชอบธรรมของปวงประชา แต่จุดมุ่งหมายของเธอนั้นมีเพียงการชำระแค้นอันหามีผู้ใดล่วงรู้ไม่ หลังสงครามกลางเมือง เธอถูกสรรเสริญเป็นวีรสตรี แต่ภายหลังเธอกลับกลายเป็นจอมเผด็จการ

ณ เบื้องหน้านั้นคือรูกุญแจ เธอเชื่อว่ามันคือสวิตซ์เพื่อจบทุกสิ่งอย่าง เธอสอดกุญแจทองคำเข้าไปหมายจะทำลายล้างป่าไพรและโรงภาพยนต์นั้น

บัดนั้น ทุกสิ่งได้สูญสลาย ทั้งซากสิ่งที่ชายผู้นั้นทิ้งไว้ และมารดาของเธอ

เธอไม่ลั่นไกปืนอีกต่อไปแล้ว เธอไม่ปราถนาที่จะทำมันอีก เธอเชื่อมั่นว่านั่นคือจุดจบ แต่มันหาใช่ เธอหาทราบไม่โลกใบนี้มีบางสิ่งที่กุญแจทองคำก็มิอาจทำลายลงได้

ค้างคาวบินเหนือที่ๆเคยเป็นป่า เขาคาดหวังว่าในพันปีมนุษย์จะสามารถทำให้โลกนี้เป็นแดนสุขขาวดี แต่นี่กลับกลายเป็นนรกภูมิ

เขานั้นไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับโลกนี้ได้อีกแล้ว แต่ไม่ใช่สำหรับเทพผู้กำเนิดใหม่ แม้ป่าไม้นั้นตายสิ้น เทพนั้นหาได้ตายไม่ ค้างคาวนั้นขอยืมพลังของเธอ แม้มันเป็นสิ่งอันต้องห้าม แต่เพียงครั้งเดียวก็อาจอภัยได้

จุดจบของโลกนี้จักปรากฏเป็นแดนสรวงหรือนรกภูมิกัน?


เพลง
ネメシスの銃口 (The Muzzleof Nemesis /Satan's Revage)
ผู้ร้อง Megpoid (Nemesis Sudou)


แปลเพลง https://docs.google.com/document/d/1Fti-pRDQlm9Xfqp6dJRIp6K67mEGh-DLVJeJXuxGOxY/edit?usp=sharing

    Nemesis Sudou ลูกสาวลับๆของGallerian กับMa (ยังไม่มีการยืนยันว่าเป็นลูกสาวจริงๆหรือในความหมายอื่น) ในปี978 เธอได้ควบคุมZiz ปลาหมึกยักษ์Ziz Tiama ให้ไปจมเรือเดินสมุทรที่ภรรรยาหลวงและลูกสาวของGallerianโดยสารอยู่ ปี972เธอที่อยู่ในองค์กรตำรวจลับPN ที่Gallerianก่อตั้งขึ้น ถูกพ่อของเธอสั่งให้ไปฆ่าNyoze Octoคนรักของเธอ เธอพยายามฆ่าตัวตายตามแต่ไม่สำเร็จ กระสุนไม่สามารถทะลุหัวเธอเข้าไปได้ เธอจึงคิดจะล้างแค้นต่อพ่อตัวเอง เมื่อเกิดสงครามกลางเมืองLeviantha เธอเข้าไปในคฤหาสน์ของGallerian ที่กำลังโดนเผา และได้ไปขวางทางGallerian ที่กำลังอุ้มตุ๊กตาClockworkerหนีและเสนอต่อเขาว่าให้ยอมคืนทุกสิ่งที่เขาคดโกงมาแล้วจะไว้ชีวิต แต่Gallerianได้ปฏิเสธ Nemesisได้ฆ่าเขา

เพลงที่เกี่ยวข้อง
最後のリボルバー (Saigo no Revolver,The Last Revolver/Good-by my lover)
ผู้ร้อง Megpoid (Nemesis Sudou)


    ปี982 Nemesis ที่ได้รับปืนลูกโม่จากGallerian หรือหมายเลข1 ซานตาแห่งตำรวจลับPN ได้เข้าร่วมเป็นตำรวจลับPN ในชื่อหมายเลข 8  ต่อมาเธอได้ถูกสั่งให้ไปฆ่าคนรักของเธอNyoze Octo ที่อยู่กันคนละฝ่าย หลังจากเขาถูกGallerian ใส่ความจนต้องเข้าคุกและแหกคุกออกมาได้ เธอได้ฆ่าเขาทั้งน้ำตา เธอเสียใจอย่างมากจึงพยายามยิงตัวตาย

そして少女は狂いだした -終末月夜抄- (Soshite Shoujo wa Kurui Dashita -Shuumatsu Tsukiyo Shou-, And Then the Girl Went Mad -End of a Moonlit Night-)


    ในบ้านกลางป่าพฤกษาพันปี Nemesis รอคอยแม่กลับมาที่บ้าน เธอนั้นถูกขังไว้ในบ้านคนเดียวเธอไม่กล้าที่จะหลับเพราะกลัวที่จะตื่นขึ้นมาคนเดียว เธอได้ยินเสียงของHanselและGretels เธอค่อยๆเสียสติไปทีละนิด เธอคิดว่าแม่ของเธอต้องการให้เป็นเช่นนั้น


วิเคราะห์ (ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น)

    หลังจากอ่านนิยายไป รู้สึกว่าMothy นี่เป็นVocaloid-P ที่เก่งด้านแต่งนิยายที่สุดแล้ว ทางด้านเนื้อเรื่อง และจับเพลงที่ยังกับไม่เกี่ยวอะไรกันมาเชื่อมให้เนียนได้ ความงงเอาเข้าจริงคนละแบบกับคาเงโร อันนี้ถ้าไม่คิดอะไรมากมันจะไม่งง แต่ถ้าคิดมากมันจะยิ่งงงแบบทวีคูณ เพราะถ้าเอามาประกอบกับซีรีส์อื่นๆเช่นClockwork Lullaby แล้วสังเกตจุดต่างๆ จะมีสิ่งที่เอาไปเชื่อมโยงได้นับไม่ถ้วน ที่จริงตัวDeadly Sins of Evil ข้าเจ้าว่าง่ายสุดด้วยซ้ำ ส่วนOriginal Sins กับClockwork Lullaby  นี่ปวดหัวตายไปข้าง ส่วนที่เป็นช่องว่างที่ยังไม่มีอะไรไปเติมมันกว้างเกินกว่าที่จะไปอะไรได้ง่ายๆ

    ดูๆไปรู้สึกว่าคนบาปแต่ละคน ไม่มีใครเลยที่เลวธรรมชาติโดยสมบูรณ์สักคนเดียว แต่ต้องมีสาเหตุต่างๆเช่น
Sateriasis ปมด้อยวัยเด็ก+ความอิจฉา
Banica ถูกยุยง+ถูกครอบงำโดยปีศาจ+ทำความปรารถนาของตัวเอง+การเลี้ยงดู
Riliane การเลี้ยงดู+ถูกยุยง
Margarita ความสิ้นหวังในชีวิตคู่
Kayo ความเข้าใจผิด+โดนสลับร่าง
Gallerian ทำเพื่อลูกสาว+ศาลโดนรัฐบาลตัดงบ
Nemesis HERเข้าครอบงำ(เป็นไปได้)+ความโกรธแค้น+โดนMaทดลอง

ที่ดูใกล้เคียงสุดคือBanica แต่ความปรารถนานั้นคือลิ้มลองทุกรสชาติบนโลกนี้ (แต่ก็เป็นไปได้ว่านั่นไม่ใช่จุดมุ่งหมายจริงๆ จริงๆอาจแค่ต้องการอยู่วิจัยBlood Grave สุดยอดไวน์ที่เธอวิจัยอุทิศให้กับพ่อตัวเองก็ได้) ตอนแรกหมายถึงแค่อาหารตามปกติทุกอย่าง แต่ปีศาจยุยงจนกลายเป็นทุกอย่างจริงๆ ซึ่งตอนแรกเธอก็ยังเป็นปกติดีเหมือนกับคนอื่นๆเว้นเรื่องกินไม่บันยะบันยัง ซึ่งก็เป็นเพราะการเลี้ยงดู แต่หลังจากทำสัญญาเธอโดนปีศาจครอบงำจนผิดเพี้ยนไป ไม่ใช่เพราะตัวเธอตั้งแต่ต้น ถ้าผิดคงผิดที่เธอทนคำยุยงไม่ได้ตอนที่ทำสัญญา และตอนที่เริ่มกินคน ตามนิยายเท่าที่อ่านคร่าวๆเห็นได้ชัดเลยว่าเป็นบ้าไปแล้ว

     และถ้าดูเนื้อเรื่องบางคนที่ไม่ใช่คนบาป ไม่ได้ครอบครองภาชนะ กลับชั่วช้ายิ่งกว่าคนบาปบางคนซะอีก (คนบาปนับที่ผลกระทบเป็นหลัก) อย่างScherzer ในมังงะOne-shot Gallerian ที่พยายามเลียนแบบSateriasis การกระทำทั้งหมดเลวกว่าเจ้าตัวที่เป็นต้นแบบมากมาย (Sateriasis ยังดูแลผู้หญิงทุกคนอย่างดี เอาอกเอาใจ) และทำเพียงเพื่อสนองตัญหาตัวเองทั้งนั้น โดยที่ไม่ไปเกี่ยวอะไรกับภาชนะเลยสักนิด อีกคนคือCaspal สามีของ Margarita ที่ตัวMothy บอกกลายๆว่าเป็นตัวละครKAITO Base ที่เลวสุดในซีรีส์ ยิ่งกว่าGallerian ที่เป็นคนบาปซะอีกเหมือนกับจะสื่อว่ามนุษย์ธรรมดานี่แหละคือปีศาจที่น่ากลัวที่สุด และประกอบกับสงคราม505 ที่Kyle ได้เชื่อว่าPrim แม่ของตนต่างหากที่สมควรเรียกว่ามารร้าย แต่สุดท้ายเธอทำไปก็เพื่ออยากให้เขาได้เป็นราชาผู้ปกครองทุกสิ่ง แม้จะทำร้ายเขาทางอ้อมไปมากมาย แต่ก็เพราะอยากให้เขาเป็นอย่างที่ควรเป็น ถึงเธอครอบครองภาชนะเกือบครบทุกอัน แต่ก็ไม่ได้ทำสัญญาหรือตกอยู่ใต้อำนาจของอันใดทั้งสิ้น (ที่ใช้พลังเป็นการใช้แบบไม่ทำสัญญาทั้งสิ้น) กลับสามารถก่อเรื่องได้ทั้งหมด ด้วยการใช้ภาชนะเหล่านั้นเป็นเครื่องมือ อันที่จริงในนิยายสั้นThe Heavenly Yardนั้นมีบอกกลายๆว่ามนุษย์นั้นคือปีศาจที่แท้จริงด้วยซ้ำไปในตรงที่กล่าวถึงBanicaว่า "ตามสามัญสำนึกแล้วนั้นD♯ ไปเป็นB♭ หรือเรียกตามโลกธรรมดาว่าจากมนุษย์ เป็นปีศาจ นั้นยากเป็นไปได้ แต่เธอได้ผ่านมันมาเสียแล้ว" ประเด็นคือD♯ กับB♭ จริงๆมันก็ตัวเดียวกันมางด้านตัวคีย์ แต่ในเวลาเขียนตัวโน๊ต ปกติที่เคยเห็นไม่มีการใช้แทนกันเลย หรือก็คือเป็นสิ่งเดียวกันแต่เป็นคนละสิ่งไปด้วยพร้อมๆกัน หรืออาจเป็นเหรียญ2หน้าบนเหรียญเดียวกันก็ได้

     ภาชนะเป็นแค่เครื่องมือ ตัวปีศาจนั้นไม่ได้เริ่มสร้างความชั่วในตัวคนจาก 0 ถ้าคนนั้นมีความบุคคลิกที่เกื้อหนุนกับความชั่วนั้นเป็น 0 อยู่แล้วมันก็จะทำอะไรไม่ได้  ที่มันทำได้คือกระตุ้นความชั่วในตัวให้แสดงออกมา หรือทำให้รุนแรงขึ้นทะลุขอบเขตปกติ มอบพลังให้ไปกระทำความชั่วนั้น และยุยงให้ไปทำมัน มันเป็นแค่องค์ประกอบในการทำชั่วเท่านั้น เหตุผลจริงๆในการทำชั่วอยู่ในตัวคนทั้งสิ้น นี่คือการครอบงำของปีศาจ มีเพียงBanica ที่กลายเป็นปีศาจคนเดียวเท่านั้นที่สามารถยึดครองร่างได้จริงๆ แต่ยังไงกรณีเจ๊แกมันก็กึ่งๆผีเจ๊แกอยู่แล้วไม่ใช่ปีศาจธรรมดา ยิ่งMothyมาชัดเจนเลยว่าในEvilious มีผีถึงของคนอื่นแค่โผล่มาเป็นตัวให้คนเห็นเฉยๆ เข้าสิงคนได้จะเป็นอะไรไป ซึ่งสึ่งที่เห็นในคนบาปถึง2คนได้แก่ Banica กับ Gallerian คือทั้ง2 คนเคยเป็นคนดีมาก่อน แต่โดนกิเลสตัญหาทำให้กลายเป็นคนเลวไป Banica ก็เพราะอยากทำความปรารถนาของตนให้เป็นจริง Gallerian ก็ทำไปเพราะรักลูกสาว สิ่งที่สื่อก็คือ แม้ว่าเป็นคนดีก็ตาม แต่ก็ยังมีกิเลสตัญหาที่จะไปเปลี่ยนคนนั้นให้กลายเป็นคนเลวได้ เมื่อเกิดอะไรสักอย่างขึ้น


รีวิว(ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น)

     ขอขึ้นที่ตัวเพลง ตามที่บอกไป ตัวเพลงทั้งหมดถ้ามองเป็นเพลงเดี่ยวๆ แล้วไม่คิดอะไรมากมันจะไม่งง แต่มันจะงงเวลาเอาไปเชื่อมกัน ปริศนาหลายอย่างถูกทิ้งไว้หลายปี เวลาMothy อยากขุดมาตอบก็ขุดมา แต่ทุกที่สร้างปมอื่นงอกตามมาอีกประจำ คงอีกนานที่จะจบบริบูรณ์แม้จะออกครบทั้ง7บาปไปแล้วก็ตาม แต่ก็ตามอารมณ์อีก อยู่ดีๆอาจเอาเพลงเก่ามาขยายความแทนก็เป็นได้ อาจขยายความแบบไม่สละสำคัญอะไรอย่างFlower of the Plateau ที่มีสำคัญนอกจากชะตากรรมMikulia ก็แค่ใบ้ว่าบรรพบุรุษPlatonic ในนิยายConchita เป็นใครแค่นี้ หรือาจทำๆไปแล้วเปลี่ยนใจตัดทิ้งก็ได้ทั้งนั้น คุณภาพเพลงขอไม่อะไรมากมาย เพลงค่อยๆทะยอยออกตลอดหลายปี ดังนั้นคุณภาพจึงขึ้นๆลงไม่แน่นอน แต่ส่วนตัวยกให้The Lunacy of Duke Venomania เพราะสุดถ้านับแค่เพลงหลัก ถ้านับเพลงขยายอยากยกให้Five the Pierrot แต่จากที่Mothyบอกมาเหมือนกับว่าเรื่องยังไม่สิ้นสุดง่ายๆ เพราะทั้งหมดที่ทำมานั้นคือ"บาป" มันยังมี"ผลกรรม"อยู่อีก

     แต่ถ้าไม่เหมาะกับใคร ขอบอกว่าไม่เหมาะกับคนที่ยึดติดภาพลักษณ์Vocaloidว่าอย่างโน้นอย่างนี้ เพราะซีรีส์นี้แค่Mikuตัวเดียวก็มีทั้ง Mikuขายตัว+โง่จนผรั่งคอมเมนต์ว่าทำให้ปลาดาวแพททริกแห่งสปันจ์บ๊อบดูฉลาดขึ้นมา(Mikulia) Mikuฆาตกรต่อเนื่อง(Magarita) Mikuคิดล้างโลก(เจ้าแห่งศาล) พร้อมจะทำลายภาพลักษณ์ได้ทุกเมื่อ แถมไปในแบบเลวร้ายสุดๆได้ทุกเมื่ออย่าหวังตัวละครดีแสนดีจากลุงโมตี้ คนดูเหมือนดีดีแตกมาหลายรายแล้ว ตัวละครจากตัวดังๆมีสิทธิพิเศษแค่1.มีโอกาสได้เป็นตัวละครหลักสูงลิ่ว 2.เวลาตายได้ดราม่าชัวร์100%

     ด้านภาพบอกคำเดียวว่า ตามบุญตามกรรมแล้วแต่เพลง บางเพลงมาอย่างอลังการบางเพลงมาเป็นสไลด์โชว์ จึงขอไม่คอมเม้นต์อะไรมาก ยังไงเพลงของMothy ไม่ได้เน้นที่อะไรทั้งนั้นนอกจากเนื้อเรื่องกับโลกทัศน์ อย่างอื่นขึ้นๆลงๆได้ตลอดเวลา

     ที่เป็นจุดด้อยคงเป็นเรื่องที่เนื้อเรื่องเป็นแบบกึ่งๆทำไปเขียนไป และพร้อมจะโทรล์ใส่คนฟังได้ตลอดเวลา ให้นึกว่าเป็นอย่างนึงสุดท้ายเป็นอีกแบบ ทำให้เรื่องเข้าใจยากถึงที่สุด ต้องใช้พลังงานเป็นอย่างมากในการทำความเข้าใจ

ดนตรี 9/10 (ทำนองดีสุดๆ ติดหูมาก ใส่ลูกเล่นเพื่อสื่อเรื่องด้วย)
เสียงร้อง 6/10 (ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มีเสียงร้องดีๆไม่กี่เพลงแต่ก็อยู่ในระดับกลางๆ)
เนื้อเรื่อง 9/10 (ข้อเสียมาจากเสกลใหญ่เกินแถมทำนานหลายปี จนมีที่ขัดกันแล้วตัดทิ้ง หรือแก้ใหม่อยู่พอสมควร แต่โดยรวมดีมากๆ ละเอียดสุดๆๆ ในนิยายใส่เกร็ดประวัติศาสตร์Eviliousไว้เพียบ)
ความยากในการฟัง 7/10 (แล้วแต่เพลง อาจออกแปลกๆหน่อยในบางเพลง)
ความยากในการเข้าใจเนื้อเรื่อง 8/10 (ตัวเพลงกับนิยายค่อนข้างขัดเจน แต่จะไปยากตรงการเชื่อมโยงระหว่างแต่ละยุค แต่ละเพลง แต่ละซีรีส์ แต่ละตัวละคร และการสื่อมีการเล่นมุมมองของตัวละคร)
วิดีโอ 4/10 จืดโคตรๆถ้าเทียบกับพวกซีรีส์ดังๆ)
สถานะ+ความนิยม EPIC (เพลงระดับตำนานเป็นพรวน แต่ต่อยอดยากจากความละเอียดของเรื่อง และปัญหาทางด้านลิขสิทธิ์ตัวละคร ที่ทำให้แทบหมดสิทธิ์ทำอนิเมะ และภาพยนต์ แม้ว่าทั้งแฟนๆทั้งเจ้าตัวจะอยากให้มีขนาดไหนก็ตามจนทุกฝ่ายปลงกันจะหมดแล้ว)

ข้อดี
1.เนื่อเรื่องอลังการงานสร้าง
2.มีอะไรให้ตีความ+ค้นหาเยอะ
3.ตัวละครออกแบบมาดีด้านบุคลิค ให้ทั้งคล้ายทั้งต่างในแต่ละคนที่ใช้ต้นแบบคนเดียวกัน

ข้อเสีย
1.ตกม้าตายด้านความสมจริงในจุดเล็กๆน้อยๆ จำพวกด้านเวลาสถานที่
2.ชื่อตัวละครโคตรพิลึก+เยอะ
3.เรื่องราวความซับซ้อนสูงจนติดตามยากมาก
4.คุณภาพขึ้นๆลงๆ
5.คนไม่รู้เรื่องพวกปวศ.โลด ความรู้รอบตัวเกี่ยวกับยุโรป คงไม่เก็ตหลายๆมุข



อ้างอิง
http://en.wikipedia.org/wiki/Main_Page
http://theevilliouschronicles.wikia.com/
หนังสือ Waltz of Evil "Deadly Sin of Evil" Guidebook
บุ๊คเล็ตอัลบัม Evils Kingdom

6 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณที่เขียนนะคะ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณที่เขียนออกมานะคะ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ28 เมษายน 2563 เวลา 07:25

    ขอบคุณที่เขียนนะคะ ♡

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ27 สิงหาคม 2563 เวลา 00:05

    ถ้ามารู้จักโวคาลอยด์ต้องมาฟังอันนี้เลยจริงๆ คือแบบดีมากแต่เนื้อหาแอบจักยากไปหน่อยขอบคุณนะคะที่ทำสรุปมาให้

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ23 ธันวาคม 2564 เวลา 10:48

    ขอบคุณนะคะ ตามฟังมาหลายปีเพิ่งจะมาไล่เก็บข้อมูลจริงๆ จังๆ

    ตอบลบ