วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556

YAMAHA



ชื่อบริษัท Yamaha Corporation (ヤマハ株式会社)
ประเภท บริษัทจำกัด
ก่อตั้ง กันยายน 1990
ผู้ก่อตั้งบริษัท 山葉 寅楠  Torakusu Yamaha
พื้นที่ให้บริการ ทั่วโลก
เว็บไซต์

สินค้า
 -เครื่องดนตรี
 -เครื่องเสียง
 -เครื่องจักร
 -จักรยานยนต์
 -อุปกรณ์อิเล็คโทรนิค

รายชื่่อผลิตภัณฑ์Vocaloid

ตัวโปรแกรมVocaloidทุกรุ่น
 Lily
 VY1
 VY2
 Mew
 VY1v3
 VY2v3
 ZOLA PROJECT
 Anon & Kanon

     บริษัทYAMAHAก่อตั้งหลังการปฎิรูปเมจิได้20ปีโดยมีชื่อแรกสุดว่า日本楽器製造株式会社 Nippon Gakki Seizō Kabushiki Kaisha โดยเริ่มแรกผลิตเพียงเครื่องดนตรีเท่านั้น และเป็นบริษัทแรกในญี่ปุ่นที่ทำการผลิตเครื่องดนตรีสากล ซึ่งเรียกได้ว่าเริ่มจากศูนย์เลยทีเดียว เพราะประเทศญี่ปุ่นในเวลานั้นยังขาดความรู้ในการสร้าง และปรับแต่งเครื่องดนตรีสากล ภายหลังสงครามโลกครั้งที่2 ก็ได้เข้ามาผลิตจักรยานยนต์ด้วย และได้แตกบริษัทลูกออกเป็นYAMAHA Motor และก็ได้ขยายการผลิตไปในหลายๆด้าน และยังเป็นผู้ผลิตเครื่องดนตรีไฟฟ้า เป็นบริษัทแรกๆอีกด้วย ซึ่งเครื่องดนตรีไฟฟ้าเหล่านี้ เป็นสิ่งประดิษฐ์แรกๆที่ใช้การสังเคราะเสียง ซึ่งจะเป็นพื้นฐานทางเทคโนโลยีให้กับการพัฒนาตัวซอฟต์แวร์Vocaloid

     YAMAHAเป็นผู้พัฒนาและผลิตตัวซอฟต์แวร์Vocaloid โดยตรงและวางมาตรฐานในการพัฒนาVoicebankให้กับบริษัทอื่นๆด้วย โดยในระยะแรกๆจะผลิตแค่ตัวโปรแกรมเท่านั้น ไม่ได้ผลิตVoicebankแต่อย่างใด จนกระทั่งปี2010ก็ได้เรื่มพัฒนาVocaloidในVY series(Vocaloid Yamaha) หลังจากที่ร่วมกับบริษัทInternetในการพัฒนาLilyมาก่อน

     แม้การพัฒนาVocaloid Cryptonจะเป็นผู้นำ แต่ก็เฉพาะด้านแนวทางเท่านั้น เพราะอย่างไรตัวโปรแกรมก็ต้องใช้ของYAMAHAอยู่ดี ทำให้YAMAHAมีอิธิพลมหาศาลในการพัฒนาVocaloidเหนือทุกบริษัท เห็นได้จากการประกาศVocaloid3 ทำให้การพัฒนาVocaloidมากมายต้องหยุดชะงักลง และต้องพัฒนาใหม่เพื่อไปลงในVocaloid3แทน นอกจากนี้อิธิพลของYAMAHA ยังเห็นได้จากการที่VocaloidของCryptonหลายตัว ถูกอออกแบบโดยมีพื้นฐานมาจากเครื่องดนตรีของYAMAHAและมักปรากฎว่าใช้งานเครื่องดนตรีของYamahaด้วยเช่นกัน

      อย่างไรก็ตามตัวVoicebankของทางYAMAHAเองดูไม่ประสพความสำเร็จเท่าที่ควร ที่ดูแล้วใกล้เคียงกับคำว่าประสพความสำเร็จมากที่สุดคือVY2 ซึ่งแนวทางของYAMAHAดูแล้วไม่เน้นคาแรคเตอร์มากเช่นVY seriesที่ไม่มีคาแรคเตอร์อย่างเป็นทางการ และตัวอื่นๆที่มีคาแรคเตอร์ก็ดูแล้วไม่ได้ใส่มาเพื่อส่งเสริมการขายใดๆทั้งสิ้น ยกเว้นกรณีZOLA PROJECT ที่มีคาแรคเตอร์หลายแบบ แต่ก็ไม่เป็นคาแรคเตอร์จริงๆ นับเป็นแค่ภาพอิมเมจ แม้จะใช้ในการโฆษณาก็ตาม

      อนึ่งบริษัทYAMAHA(ประเทศไทย)ไม่ได้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์Vocaloidแต่อย่างใด

อ้างอิง
http://vocaloid.wikia.com


วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2556

Leon & Lora


ข้อมูลซอฟต์แวร์

 ชื่อ LE♂N(LEON)
 รุ่น Vocaloid
 ผู้ผลิต Zero-G

 ผู้จัดจำหน่าย Zero-G
                       Crypton

 ภาษาที่รองรับ อังกฤษ
 ผู้ให้เสียง ไม่เปิดเผย
 เพศ ชาย
 วันวางจำหน่าย  3 มีนาคม 2004
 ราคา แรกจำหน่าย 99.99$ ราคาปัจจุบัน 39.99$
 หน้าผลิตภัณฑ์



ข้อมูลซอฟต์แวร์

 ชื่อ L♀LA(LORA)
 รุ่น Vocaloid
 ผู้ผลิต Zero-G
 ผู้จัดจำหน่าย Zero-G
                       Crypton
 ภาษาที่รองรับ อังกฤษ
 ผู้ให้เสียง ไม่เปิดเผย
 เพศ หญิง
 วันวางจำหน่าย  3 มีนาคม 2004
 ราคา แรกจำหน่าย 99.99$ ราคาปัจจุบัน 39.99$
 หน้าผลิตภัณฑ์




        LeonและLoraเป็นVocaloid 2ตัวแรกที่ออกมาพร้อมกัน ซึ่งปกกล่องของทั้งคู่เป็นแบบเรียบง่ายตามสมัยนิยมของตอนนั้น(ก่อนที่แนวทางเน้นคาแรคเตอร์จะถูกเริ่มโดยCrypton) และเพื่อแข่งกับซอฟต์แวร์คู่แข่งในตอนนั้นคือCantor (ซึ่งแน่นอนถูกกลบฝังไปแล้วด้วยความสำเร็จของVocaloid) ซึ่งชื่อของทั้งคู่นั้นเป็นชื่อที่ใช้กันโดยทั่วไปทั้งคู่

        และการตลาดกับการโปรโมตเรียกได้ว่าเป็นแบบมาตรฐานของซอฟต์แวร์สมัยนั้น คือลงในนิตยสารอิเล็คโทรนิค เพราะตอนนั้นเป้าหมายหลักคือเข้าหาผู้แต่งเพลงที่เป็นคนในวงการITเป็นหลัก ต่างจากตอนนี้ที่เน้นหาผู้ที่จะฟังเพลงที่ถูกสร้างขึ้นล่วงหน้าเป็นหลักเช่นทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะทั้งคู่เป็นVocaloid 2ตัวแรกก่อนหน้านี้Vocaloidยังไม่มีมาก่อนและเสียงสังเคราะยังไม่แพร่หลายเท่าทุกวันนี้ แต่การตลาดเช่นนี้ที่มุ่งเจาะแต่ผู้ใช้งานล้วนๆ กลับทำให้ยอดขายของทั้งคู่เรียกได้ว่าไม่ถึง1,000ชุดกันทั้งคู่


อ้างอิง
http://vocaloid.wikia.com

วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2556

Zero-G Limited



ชื่อบริษัท Zero-G Limited
ประเภท บริษัทจำกัด
ก่อตั้ง กันยายน 1990
ผู้นำบริษัท Ed Stratton 
                  Julie Stratton
พื้นที่ให้บริการ เกาะบริเตนใหญ่
เว็บไซต์

สินค้า
 -อุปกรณ์สังเคราะห์เสียง
 -จับจ่ายออนไลน์
 -สอนดนตรี
 -ผลิตสื่อตามสั่ง

รายชื่่อผลิตภัณฑ์Vocaloid

 Leon
 Lola
 Miriam
 Prima
 Sonika
 Tonio
 Avanna

       Zero-G Limited เป็นบริษัทแรกที่พัฒนาผลิตVocaloidภาษาอังกฤษ และเป็นผู้พัฒนาLEONและLORA Vocaloid2ตัวแรกขึ้นมา โดยที่ผลิตภัณฑ์นั้นได้บริษัทCryptonเป็นตัวแทนจำหน่ายในญี่ปุ่นให้

        Zero-Gมีชื่อบริษัทเดิมว่าTime+Space เป็นหนึงในผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ด้านเสียงรายใหญ่ในประเทศอังกฤษ และเป็นบริษัทแรกที่รับข้อเสนอในการพัฒนาVocaloidภาษาอังกฤษของCrypton

       ส่วนแนวทางการสร้างVocaloidนั้น แนวทางหลักของZero-Gคือ "นักร้องในกล่อง" ซึ่งVocaloidแทบทั้งหมดจะปิดบังผู้ให้เสียง ด้วยเหตุผลทางกฎหมาย อนึ่งVocaloidฝั่งตะวันตกนั้นไม่ได้ร่วมในข้อตกลงทางลิขสิทธิเดียวกันกับฝั่งตะวันออกทำให้การเผยแพร่ผลงานยากกว่ามาก ซึ่งVocaloidของZero-Gนั้นไปได้ไม่ค่อยสวยในสหรัฐอเมริกาเนื่องจากใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักเหมือน กันแต่สำเนียงไม่เหมือนกัน ด้านบรรจุภัณฑ์นั้นเดิมจะเน้นแนวเรียบง่าย แต่ภายหลังก็เริ่มรับแนวทางเน้นคาแรคเตอร์มาจากCryptonและVocaloidจากทางญี่ปุ่นตัวอื่นๆ ทำให้ในยุคVocaloid2นั้นแทบทุกตัวจะมีอาร์ตเวิร์คหลายแบบเนื่องจากทั้งการแก้ภาพเพื่อการตลาด และส่งขายในต่างพื้นที่ แต่ความนิยมก็ไม่สูงมากนัก แต่ตัวบริษัทได้แสดงจุดยืนที่จะพยายามให้Vocaloidภาษาอังกฤษได้รับความนิยมมากขึ้น


อ้างอิง
http://vocaloid.wikia.com


วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2556

คำศัพท์ที่มักพบในวงการเพลงVocaloid

*จะเนื้อหามีเพิ่มเรื่อยๆ

Cover
      คือการนำเพลงไปทำการร้องซ้ำ โดยแฟนๆหรืออาจจะเป็นVocaloidตัวอื่นหรือโปรแกรมสังเคราะเสียงอื่นๆก็ได้

CV Vocaloid
      ย่อมาจากChracter Voice Vocaloid หมายถึงVocaloid ที่เสียงของVoicebank นั้นเป็นเสียงของตัวละครคาแรคเตอร์ของตัวนั้นๆโดยตรง ไม่เหมือนกับเสียงของผู้ให้เสียง เช่นMiku ที่เสียงจะไม่เหมือน Saki Fujita ผู้ให้เสียงโดยตรง

Engloid
      Vocaloidที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก

Kaitemita(描いてみた)
      คือการทำPVใหม่ให้กับเพลงใดๆโดยแฟนๆ อาจอิงกับPVเดิมหรือทำใหม่ทั้งหมดก็ได้ ตัวเพลงอาจจะเป็นของต้นฉบับหรือเป็นแบบCoverก็ได้ คำในภาษาอังกฤษคือDrew It

Fandub Chorus
     คือการคอรัสCoverเพลงโดยกลุ่มแฟนๆ ซึ่งมักทำผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยแต่ละคนแบ่งท่อนกันก่อนแล้วนำของทุกคนมาMixเข้าด้วยกัน ซึ่งชื่อเรียกจะแตกต่างไปตามเว็บไซด์ที่ลงผลงาน เช่นถ้าลงในYoutubeเรียกว่าYoutube ChorusหรือYTChorusถ้าลงในNico Nico Dougaจะเรียกว่าNiconicochorus

Fanloid


     คือคาแรคเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยได้แรงบัลดาลใจมาจากVocaloid และอาจใช้VoicebankของVocaloid มาปรับแต่งเพื่อการให้เสียง เช่นNeru Akita

Hatsune Miku Project Diva

    เป็นเกมแนวดนตรีโดยบริษัทSEGAโดยที่Vocaloidที่ปรากฎจะมีเพียงVocaloidของCryptonเท่านั้น ซึ่งส่วนมากจะลงในเครื่องคอนโซลตระกูลPlay StationของบริษัมSONY ส่วนรุ่นArcadeนั้นในปัจจุบันมีให้บริการในประเทศไทยแล้ว

Hatsune Miku Project Mirai
       เป็นเกมแนวดนตรีโดยบริษัทSEGAโดยที่Vocaloidที่ปรากฎจะมีVocaloidของCrypton และInternet บางตัว ซึ่งลงในเครื่องตระกูลNintendo DSของบริษัมNintendo โดยที่โมเดลตัวละคร จะได้แบบมาสากสินค้าไลน์Nendoroid ของบริษัทGood Smile Company

Mikudayo

     http://akibatan.com/2013/01/akiba-time-toshokan-mikudayo/
     หรือสรุปก็คือเป็นชุดตุ๊กตาที่ทำมาเพื่อโปรโมต เกมHatsune Miku and Future Stars: Project Mirai แต่ได้ทำออกมาคุณภาพเลวร้ายจนถูกแฟนๆเอาไปล้อ ซึ่งミクダヨーมีความหมายทำนองว่า"มิคุไงล่ะ"

Mikupa

     ย่อมาจากHatsune Miku Live Party คือคอนเสิร์ตWorld Tourที่จัดโดยCryptonเป็นตัวหลัก ซึ่งมีลักษณะเป็นคอนเสิร์ตโฮโลแกรม

MMD (Miku Miku Dance)

     เป็นฟรีแวร์สำหรับสร้างอนิเมชัน3มิติ ส่วนมากใช้ในผลงานTalk Loid และ PVของเพลงVocaloid

PV
     ย่อมาจากPromotional Video  ซึ่งก็คือความหมายเดียวกันกับMVแต่ในวงการVocaloidมีความแตกต่างจากปกติเล็กน้อยคือธรรมดาแล้วจะเหมือนMVทุกประการแต่ของVocaloidนั้นไม่จำเป็นว่าต้องเป็นภาพเคลื่อนไหวทั้งแบบเดียวกับMVแต่อาจเป็นแค่ภาพนิ่งหรือแฟลชลูปได้ และบางเพลงมีการนำไปทำเป็นเวอร์ชันMVเพื่อนำไปโปรโมตผ่านสื่ออื่นๆนอกจากทางออนไลน์

Talkloid
     เป็นการนำVocaloidหรือโปรแกรมสังเคราะเสียงอื่นๆเช่นUTAUมาพูด อาจทำในลักษณะอนิเมะแฟนเมด หรือบทสัทพาทย์

Utattemita(歌ってみた)
     เหมือนกับCoverแต่ทำโดยนักร้องที่เป็นคนจริงเท่านั้น คำในภาษาอังกฤษคือSang It

UTAU

     เป็นโปรแกรมสังเคราะเสียงฟรีแวร์ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถสร้างVoicebankขึ้นมาเองจากเสียงร้องได้ แต่จะถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหากผู้ให้เสียงไม่ยินยอม

Vocaloid Midi
     นามสกุลไฟล์ที่ใช้กับไฟล์โครงการของVocaloidรุ่นแรก

Vocaloid P
     ย่อมาจากVocaloid Producerหรือก็คือนักแต่งเพลงVocaloid โดยทั่วไปแล้วVocaloid Pจะลงท้ายนามสมมุติของตัวเองด้วยตัวอักษร Pแต่ไม่จำเป็นเสมอไป Vocaloid Pหนึ่งอาจมีนามสมมุติดังกล่าวกี่อันก็ได้ อาจตั้งตามใจตนเอง ผู้อื่นตั้งให้ หรือตั้งตามชื่อเพลงสร้างชื่อของตน เช่นAku no P(悪ノPอีกชื่อของmonthy) มาจากเพลงAku no musumeและAku no meshisukai หรือBousou P(暴走Pอีกชื่อของCosMo) มาจากเพลง初音ミクの暴走 และนามสมมุตินี้สามารถเปลี่ยนได้เรื่อยๆ แต่มักมีชื่อหนึ่งเป็นชื่อหลัก

Voicebank
     คือตัวDatabase ของหน่วยเสียงที่จะนำมาใช้ในการสังเคราะเสียงในโปรแกรมVocaloidและUTAU

Voiceroid

     เป็นโปรแกรมสังเคราะเสียงของบริษัทAH-Softwareแต่เน้นไปที่การพูดมากกว่าการร้องเพลง อนึ่งไม่ได้นับรวมเป็นซอฟต์แวร์เดียวกับกับVocaloid

VSQ
     เป็นนามสกุลไฟล์โครงการของVocaloid2

VSQX
      เป็นนามสกุลไฟล์โครงการของVocaloid3


คัดคำมาจาก
http://vocaloid.wikia.com

วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2556

Vocaloidกับโลกฝั่งตะวันตก

      จากการที่Vocaloidถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก ทั้งตะวันออกและตะวันตก เสียงตอบรับทางตะวันออกและตะวันตกย่อมไม่เหมือนกัน ซึ่งของตะวันออกเราก็น่ารู้ดีอยู่แล้ว แต่ทางตะวันตกล่ะ? แม้Vocaloidฝั่งตะวันตกจะมีมาก่อน แต่ว่าวัฒนธรรมVocaloidเกิดขึ้นในตะวันออก ดังนั้นVocaloidจึงจัดเป็นPop Cultureจากฝั่งตะวันออกที่ไปตีฝั่งตะวันตกได้สำเร็จไม่แพ้K-pop แต่ถ้าเราไปถามแต่แฟนๆไม่ว่าตะวันออกตะวันตกก็ตาม ยังไงก็ต้องได้คำตอบแง่บวกรู้ก็อยู่แล้ว แต่ถ้าเราไปดูคำวิจารณ์จากสื่อต่างๆและผู้เชี่ยวชาญ  และแม้แต่ปฎิกิริยาของคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนด้วยล่ะ

หนังสือพิมพ์ El Universo ประเทศเอลกวาดอร์ วันที่ 8 กันยายน 2010

       (ขอขอบคุณGoogle Translateสำหรับคำแปลเป็นอังกฤษ) หัวข้อข่าวแปลว่า "Vocaloidนักร้องดังที่ไม่มีเลือดเนื้อ" ซึ่งมีความคิดเห็นที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

       "การที่เราจะรักในไอดอลที่ถูกสร้างขึ้นทางดิจิตอล มันกำลังเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ และวันนี้สิ่งเสมือนกับความเป็นจริงเริ่มที่จะรวมกันแล้ว"

       "ไอดอลถือเป็นส่วนสำคัญของสังคมญี่ปุ่นปัจจุบัน และแนวคิดเรื่องไอดอลเสมือนจริง มีความสะดวกที่จะไปทำให้คงความนิยมอยู่ได้นาน เพราะพวกเขาไม่มีวันแก่หรืออ่อนเพลียเกินกว่าที่จะไปจัดคอนเสิร์ตได้"
        ในความเห็นทั้ง2อันนั้นสื่อกลายๆว่าผู้เขียนข่าวและผู้ถูกสัมภาษณ์ในการเก็บข้อมูลเห็นพ้องกันว่าVocaloid จะเป็นตัวที่ทำให้เส้นแบ่งทางเทคโนโลยีความบันเทิงพังทลายลงได้ และเป็นการปฎิวัติความบันเทิงเลยทีเดียวที่มีกล่าวว่า"พวกเขาไม่มีวันแก่หรืออ่อนเพลียเกินกว่าที่จะไปจัดคอนเสิร์ตได้" เพราะนักร้องที่เป็นคนจริงมากมายมักวางมือแขวนไมค์เมื่อแก่ตัวลงหรือมีปัญหาใดๆ ถ้ามีนักร้องที่จะอยู่ไปได้ตลอดกาล ก็เท่ากับเป็นไปได้ว่าสามารถรวมคนไว้ด้วยกันได้ตลอดกาล โดยมีสิ่งเสมือนเป็นศูนย์กลาง

จากหนังสือพิมพ์ Metro ประเทศอังกฤษ วันที่21 ต.ค. 2010
       ข่าวนี้เป็นสื่อต่างชาติอันแรกๆที่พูดถึงVocaloid ในข่าวนี้ได้ให้ความคิดเห็นต่อคอนเสิร์ตVocaloidว่า
       "ที่มันน่าตกใจไม่ใช่ตัวโฮโลแกรม3มิติ แต่เป็นผู้ชมที่แน่นขนัดต่างหาก มันจะรู้สึกยังไงถ้าคุณเป็นนักดนตรีแล้วพบว่า นักร้องเสมือนจริงมีคนรักมากกว่าคุณ"
        ซึ่งความคิดเห็นนี้แห็นได้อย่างชัดเจนว่าผู้ที่เขียนบทความข่าวนี้ทึ่งที่สิ่งเสมือนจริงกลับได้รับความนิยมมากกว่านักร้องนักดนตรีจริงๆบางคนเสียอีก ส่วนที่อยู่ในด้านมุมขนขวาของหนังสือพิมพ์นั้น พูดถึงGorillazซึ่งเป็นนักร้องเสมือนที่ออกมาในปี2005จัดว่าเป็นรุ่นพี่ของVocaloid แม้จะประสพความสำเร็จมาก แต่ก็ไม่ประสพความสำเร็จและแพร่หลายเท่าเท่าVocaloid ซึ่งตัวGorillazนั้นต่างจากVocaloidโดยสิ้นเชิง สาเหตุนั้นเป็นเพราะGorillazเป็นซอฟต์แวร์ปิด มีเพียงเจ้าของลิขสิทธิเท่านั้นที่ใช้ได้ ทำให้ไม่แพร่หลาย และไม่คุ้มทุนมหาศาลในการพัฒนา ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบแล้วจะเข้าใจได้เลยว่าเหตุใดVocaloidจึงประสพความสำเร็จ ซึ่งจะเขียนในโอกาสหน้า




กรณีCBS NEWS

        ข่าวนี้แม้เนื้อหาข่าวจะเกี่ยวกับVocaloidแบบทั่วๆไปที่สื่อต่างๆทั่วโลกลงกัน แต่ประเด็นนั้นเกิดจากหัวข้อข่าวที่มีความหมายทำนองว่า "Hatsune Miku นัีกร้องจอมปลอมระดับโลก" ทำให้ข่าวตัวนี้ถูกวิพากย์วิจารย์อย่างหนัก จากการตั้งชื่อ ซึ่งเมื่อข้าเจ้าลองวิเคราะห์ดูแล้วจากเนื้อข่าวแล้ว ก็ไม่พบปัญหาใดๆอีกนอกจาก การที่เห็นได้ชัดเจนว่าผู้เขียนบทความรู้สึกว่า ตัวผู้เขียนบทความนั้นมองแฟนๆเหมือนกับคนที่ห้อมล้อมความว่างเปล่าอยู่ หรือก็คือยังรับไม่ค่อยได้กับตัวตนเสมือนเช่นหลายๆคนที่ มีปัญหากับแฟนๆVocaloidเพราะการวิจารณ์หรือความคิดเห็นของตน

จากรายการ Le Grand Journal ประเทศฝรั่งเศษ

        ที่ทราบจากการดูก็คือตัวนักวิจารณ์นั้น รู้เพียงผิวเผินเท่านั้น ทั้งที่ที่พูดมาทั้งหมดเป็นแค่ข้อมูลพื้นฐาน ที่มักปรากฎในสื่อ เช่นความหมายของชื่อMiku และการที่เข้าใจผิดว่าLukaคือMiku (ซึ่งเป็นเรื่องให้อภัยไม่ได้ในฐานะที่ข้าเจ้าเป็นแฟนVocaloidคนหนึ่ง) และปฎิกิริยานั้นที่เธอได้พยายยามขอให้เลิกฉายวิดิโอตัวอย่างคอนเสิร์ต และก่อนหน้านั้นมีการยกไปเปรียบกับGorillaz ซึ่งข้าเจ้าเคยบอกไปหลายครั้งในบทความนี้แล้วว่า2เคสมันไม่เหมือนกัน แต่ชาวตะวันตกก็มักจับมัดรวมว่าเหมือนกันไปอยู่เรื่อย ซึ่งการที่บางคนเป็นนักวิจารณ์แต่กลับไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ หรืออาจเป็นความผิดผู้จัดรายการที่ตอนต้นนั้นพูดถึงMiku แต่กลับเอาคลิปLukaมาแทน ยิ่งสร้างความสับสนได้ ยิ่งทำให้เข้าใจได้เลยว่าVocaloidนั้นจัดว่าเข้าใจได้ยากสำหรับชาวตะวันตก ยิ่งไปสนับสนุนคำขอโทษของWilliam Gibsonที่อยู่ข้างล่าง อีกด้วย และก็สนับสนุนที่ว่าชาวตะวันตกไม่คุ้นกับสิ่งเสมือนจริงด้วย

        ส่วนสื่อของประเทศต่างๆนอกจากนี้ล้วนนำเสนอโดยมองแง่มุมด้านความนิยมและเทคโนโลยีเป็นหลัก


กรณีWilliam Gibson

       กรณีนี้เกิดจากการที่William Gibson นักแต่งนิยายวิทยาศาสตร์ผู้บุกเบิกไซเบอร์พังค์ ได้ทวิตว่า
"Hatsune Miku doesn’t really rock me. I want higher rez, less anime."
"Hatsune Miku ทำให้ฉันประทับใจไม่ได้ ฉันอยากได้อะไรที่ชัดเจนมากกว่ากว่าและเป็นอนิเมะน้อยกว่านี้"
      ทำให้เกิดเสียงวิพากย์วิจารย์จากหมู่แฟนๆในเชิงลบต่อโพสนี้ และเรื่องได้ลามไปถึงญี่ปุ่น
http://togetter.com/li/70066 จนHiroyuki Itoh CEOของCryptonได้ออกมาตอบโต้ความว่า

      "นั่นสินะWilliam Gibsonทวีตเกี่ยวกับMiku และฉันก็ได้อ่านNeuromancer(ผลงานสร้างชื่อของGibson)ตั้งแต่20ปีก่อนแล้ว เมื่อลองคิดดูแล้วมันเป็นเรื่องที่ล้ำยุคมากสำหรับสมัยนั้น แต่ตอนนี้อนาคตนั้นเป็นจริงแล้ว เราน่าจะรู้สึกตัวได้แล้วอนาคตมันไม่ได้มีไว้ให้ตื่นเต้นอย่างไร้สาระ"
      ซึ่งความหมายที่สื่อออกมาคือตัวVocaloidนั้นก็ถือว่าล้ำยุคเกินสำหรับสมัยนี้ เหมือนกับผลงานของGibsonเอง และต่อไปอนาคต(ยุคที่สิ่งเสมือนกับความเป็นจริงรวมกัน)นั้นจะเป็นจริง เช่นเดียวกับหลายๆอย่างที่เคยเป็นเพียงความคิดเพ้อฝันในนิยายวิทยาสาสตร์ ที่ดูแล้วไร้สาระสำหรับคนสมัยนั้น แต่ในปัจจุบันก็เป็นจริงไปแล้วหลายอย่าง
      ตัวGibsonเองก็ได้ทวีตในเชิงขอโทษว่า

"Hatsune Miku is clearly a more complex phenomenon than I initially assumed. Requires further study."
"ฉันเข้าใจชัดเจนแล้วว่า Hatsune Miku เป็นปรากฎการณ์ที่ซับซ้อนเกินกว่าที่ฉันจะเข้าใจได้ตั้งแต่แรกเห็น ฉันต้องไปศึกษาเพิ่มอีก"
      ซึ่งก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าสถานะของVocaloidนั้นไม่เหมือนกับนักร้องเสมือนจริงก่อนๆหน้าในแทบทุกด้าน ทำให้อาจเข้าใจยากสำรับผู้ที่คุ้นชินกับนักร้องเสมือนจริงแบบเก่าโดยเฉพาะชาวตะวันตก เพราะVocaloidหยั่งลงไปในหลายๆด้านมากๆ และสาเหตุที่ทำให้ผู้แฟนๆเยอะก็เช่นกัน ล้วนแต่แตกต่างจากทุกตัวที่มาก่อน
 ทวิตเตอร์ของWilliam Gibson 



LA Magazine

http://www.latimesmagazine.com/2012/06/i-sing-the-body-electric.html
แปล
http://akibatan.com/2012/07/article-hatsune-miku-i-sing-the-body-electric/

        จากบทความนี้ขอยกให้เป็นบทความที่แสดงมาได้ชัดเจนที่สุด ซึ่งเห็นได้เลยว่าผู้ใหญ่ในสังคมตะวันตกส่วนมากปฎิเสธสิ่งที่ไม่ตัวตน อย่างกรณีเว็บTop10ที่ถือว่าเป็นเว็บจัดอันดับระดับต้นๆ ที่ผู้ดูแลควรมีวิจารณญาณกลับมาแสดงออกเช่นนี้ และมีอีกกลุ่มหนึ่งที่ต่อต้านVocaloidคือกลุ่มที่มองว่าVocaloidที่เป็นวัฒนธรรมของญี่ปุ่นจะมาแย่งความนิยมของกลุ่มตนเช่นกลุ่มK-pop ซึ่งกลุ่มนี้มักมาก่อกวนวงการเพลงVocaloidเป็นระยะๆ เช่นการแจ้งลิขสิทธิเท็จเพื่อลบเพลงออกจากYoutube ซึ่งจากการตรวจสอบผู้แจ้งลบทำให้หลายคนเชื่อว่าเป็นไปได้ที่ทางผู้คลั่งไคล้ในK-popเป็นตัวต้นเหตุ
       ส่วนความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญส่วนมากออกแนวที่จะพูดถึงในด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและวัฒนธรรมเป็นสำคัญ

http://www.the-top-tens.com/lists/singers-perform-london-olympics-opening-ceremonies.asp
http://www.the-top-tens.com/items/hatsune-miku-391821.asp
       ในการโหวตของTop10นั้น ตัวข้าเจ้าเองได้ไปอ่านความคิดเห็นของผู้โหวต เห็นได้ว่าชาวตะวันตกส่วนใหญ่ชอบVocaloidในฐานะที่เป็นผลผลิตของเทคโนโลยีหลายๆด้านของยุคปัจจุบัน และแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีนั้นไปใช้ทำอะไรได้ บ้างก็มองในเสน่ห์ที่สามารถเป็นอย่างไรก็ได้ตามที่ต้องการ บ้างก็มองในฐานะตัวที่จะแสดงให้เห็นถึงการปฎิวัติในเรื่องที่เคยกล่าวไว้ในบทความของEl Universoว่า"วันนี้สิ่งเสมือนกับความเป็นจริงเริ่มที่จะรวมกันแล้ว" และยังสามารถรวมคนทั้งโลกเข้ากันได้ ซึ่งเรื่องนี้จะเขียนในครั้งต่อๆไปถึงความนิยมของทั้งโลก

      ผิดกับนักร้องที่เป็นคนจริงๆหลายคนในโพลเดียวกันข้าเจ้ามองว่าเหตุผลที่เขาเลือกกันนั้นไร้สาระสิ้นดีเมื่อเทียบกับของMikuที่ถูกยกมาใส่ในโพล เพราะส่วนมากเหตุผลทำนองแค่ว่า "พวกเขาดัง" "ฉันชอบพวกเขา" "เพลงพวกเขาเจ๋ง"แค่นี้วนเวียนไปๆมาๆ มีที่เห็นว่าเหตุผลดีข้าเจ้าเห็นว่ามีแค่เลดี้กาก้าคนเดียวเท่านั้นเพราะเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองไม่ตามใครที่เรียกได้ว่าตรงกันข้ามกับเอกลักษณ์ของVocaloidอย่างสมน้ำสมเนื้อ

ปฎิกิริยาแรกเห็น

      เราต้องขอบคุณYoutubeที่มีคลิปReactฝรั่งมากมาย เพราะเรื่องแบบนี้แม้มีข้อมูลจากสื่อกับคนดังๆ ยังไงก็ไม่ใช่เสียงที่แท้จริง การไปถามแฟนๆก็ด้วยเหมือนกัน ข้าเจ้าคิดว่าการไปถามจากความรู้สึกของผู้เห็นครั้งแรกที่เป็นชาวบ้านธรรมดาจะได้ข้อมูลเป็นกลางมากที่สุด
      และต้องขอคุณแชเนลTheFineBrosและคนอื่นๆในYoutubeที่ทำแบ่งตามวัยทำให้เห็นชัด เรื่องความแตกต่างทางเจนเนเรชันของมนุษย์ต่อมุมมอง

     อันนี้เป็นการให้เด็กมาดูคลิปคอนเสิร์ตของMiku โดยในรอบแรกนั้นไม่ได้บอกว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นนั้นคืออะไร ซึ่งปฎิกิริยาส่วนมากดูแล้วช่วงแรกๆดูมีท่ามางงว่าสิ่งที่ตนเห็นนั้นคืออะไร ส่วนไปสักระยะนั้นส่วนมากจะออกไปทางบวก เห็นจากที่มีบางคนโยกตามจังหวะ และคำพูดบางคำดูแล้วออกแนวทึ่งในสิ่งมี่เห็น ส่วนคนสุดท้ายที่พูดว่า"She destroy my mind"นั้นดูเผินๆเหมือนกับไม่ชอบ แต่พอดูส่วนต่อไปที่เห็นการสัมภาษณ์ความคิดเห็นในช่วงนาทีที่1.32 กลับกลายเป็นว่าเด็กคนเดียวกันมีท่าทางตกใจและทึ่งเป็นอย่างมาก และพอถึงนาทีที่1.42ก็ได้ทราบเหตุผลที่แท้จริงของที่กล่าวมานั้น จึงกลายเป็นเรื่องตลกไป ส่วนคนอื่นดูๆไปแล้วออกแนวทึ่งกันทั้งนั้น แต่หลายคนคิดว่าเป็นตัวละครจากเกมหรืออนิเมะ และมีบางคนคิดว่าเป็นนักร้องที่เสียงดีแต่หน้าตาอัปลักษณ์จึงต้องเอาโฮโลแกรมขึ้นแทน
        และต่อจากนั้นในนาทีที่2.15 มีการถามว่าคิดอย่างไรกับเสียง ก็มีตอบหลักๆ2แบบคือ 1.เสียงดี 2.เสียงแหลมแสบหู และเมื่อนาทีที่2.28ที่บอกพวกเขาไปว่าเป็นเสียงสังเคราะจากคอมพิวเตอร์ส่วนมากมีที่ท่าเริ่มรับได้กันแล้ว แต่ทีท่าทึ่งตกตะลึงยังมีกันอยู่ในหมู่เด็กเล็ก

      คลิปที่2 คราวนี้เป็นปฎิกิริยาของผู้สูงอายุ  ซึ่งปฎิกิริยาแรกเห็นนั้นทุกคนไปทำนองเดียวกันว่า"นี่มันอะไรน่ะ" แต่ด้านอารมณ์ความรู้สึกนั้นดูยากกว่าเด็กหลายเท่า เพราะเป็นผู้มีวัยวุฒิมาก  ทำให้ไม่แสดงออกอะไรมารุนแรงเท่าเด็กในการสัมภาษณ์ในสักษณะนี้ และในท่อนต่อไปในนาทีที่2.07 ที่เป็นตอบคำถามก็ดูแล้วจะเข้าใจได้ทันทีว่าไม่ใช่เสียงของมนุษย์จริงๆ ทั้งๆที่ยังไม่ได้เฉลย ส่วนเมื่อเฉลยนั้นก็เป็นลักษณะเดียวกันกับของเด็ก คือแปลกใจ ผสมทึ่ง แต่ไม่มีทีท่าแตกตื่นอะไรมากมาย แต่บางคนดูเหมือนยังไม่ค่อยเข้าใจดีนัก (ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะอธิบายไม่กี่ประโยคจบได้ ดังเช่นกรณีWilliam Gibson) แต่ก็ถือว่าเข้าใจอะไรได้ค่อนข้างไว และคนที่มีทีท่าสนใจดูแล้วจะมองในแง่เทคโนโลยีมากกว่า
      อีกจุดที่สำคัญนาทีที่4.42 เมื่อพิธีกรถามว่าคิดอย่างไรกับการที่สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นเป็นที่นิยม ก็มีความเห็นทำนองว่า มันดูว่างเปล่า มันไร้บุคลิค (ซึ่งจุดนี้ที่จริงเป็นจุดเด่นหลักของVocaloidเลยทีเดียว) กับความเห็นทำนองว่ามันเจ๋งดี
      แต่ที่ข้าเจ้าทึ่งเมื่อได้ยินคือ ในนาทีที่5.03 กับคำว่า"Future is here"(อนาคตอยู่ที่นี่) ซึ่งขอให้ลองย้อนไปอ่านคำตอบของHiroyuki Itoh CEOของCrypton ในกรณีWilliam Gibson นี่ยิ่งยืนยันคำพูดนั้นได้ และหลังจากนั้นที่ผู้หญิงคนนั้นบอกว่า กลัว ในจุดนี้เมื่อลองมองถึงมุมมองต่อสิ่งเทียมมนุษย์อย่างเช่นหุ่นยนต์ สื่อฝั่งตะวันตกมักจะสื่อมาในเชิงน่ากลัวเป็นอันตรายต่อมนุษย์ แต่ฝั่งตะวันออกมักจะสื่อทำนองว่าเป็นมิตรกับมนุษย์ ซึ่งจุดนี้ทำให้เข้าใจสาเหตุที่เกิดการไม่ยอมรับสิ่งเทียมมนุษย์รวมถึงVocalidด้วย ในเชิงสังคม ทางฝั่งตะวันตกมากกว่าตะวันออก ซึ่งก็เห็นชัดขึ้นในท่อนต่อๆไป ที่ส่วนใหญ่เห็นว่ายังไงก็ไม่มีทางได้รับความนิยมเท่ามนุษย์ได้

ส่วนอันนี้เป็นของ Andrea Val
      อันนี้มีลักษณะต่างจาก2อันแรกคือถามความคิดเห็นเป็นหลักมากกว่าปฎิกิริยา ซึ่งปฎิกิริยาก็เป็นเหมือนๆกันกับในคลิปก่อนหน้า แต่เพราะได้อธิบายเรื่องต่างๆไปก่อนแล้ว ซึ่งความคิดเป็นนั้นทำให้เห็นได้ว่าเธอมองว่ามันต้องใช้เทคโนโลยีที่ไม่กี่คนทำได้ และบอกว่ามันไม่มีจริงแต่เทคโนโลยีทำให้ดูมีจริง ซึ่งก็มองในแง่เทคโนโลยีมากกว่าด้านอื่นๆ

และมีอีกมากมายที่เป็นรายย่อยๆแต่เห็นว่า3ตัวนี้ได้ข้อมูลมาดีที่สุด
ดูเพิ่มเติม

      ที่สังเกตุได้จากทุกข่าว ทุกสื่อ เห็นได้ว่าฝั่งตะวันตกมักจะรู้จักMiku มากกว่าตัวอื่นๆ จนสื่อต่างๆเอาชื่อMikuไปลงเป็นหลักแทนที่จะลงถึงVocaloidเป็นหลัก และคอนเสิร์ตในลักษณะนี้ของบริษัทอื่นก็มีเช่นกันแต่ไม่เด่นเท่า ทำให้เข้าใจถึงความสำเร็จทางการตลาดของCrypton แต่มองอีกมุมหนึ่งก็เห็นได้ว่า ทั้งหมดแทบไม่มีใครรู้ลึกรู้จริงลงไปถึงรากฐาน ทั้งทางวัฒนธรรม เทคโนโลยี การตลาด และอื่นๆมากมายที่ทำให้Vocaloidประสพความสำเร็จ หรือรู้แต่ไม่สามารถเขียนลงไปได้ ด้วยพื้นที่ที่จำกัดหรืออะไรก็ตามแต่ ทำให้ผู้มาเห็นจะรู้สึกว่ามันว่างเปล่าไร้แก่นสารได้ (แต่ทางตะวันออกก็มีสื่อที่เขียนข่าวทำนองนี้เช่นกัน) และบางคนเอาไปเปรียบเทียบกับทู-แพ็ค ไม่ก็Gorrilazซึ่งมันไม่เหมือนกันซึ่งข้าเจ้าจะอธิบายในภายหลัง นอกจากนี้ยังมีคนที่ชอบแต่ไม่รู้จริงอีกมาก ซึ่งข้าเจ้าไปพบมากับตัว (นึกว่าUTAUเป็นชื่อVocaloidตัวหนึ่ง) แต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีมาก กับการที่ถูกกระจายผ่านสื่อต่างๆเช่นนี้

      ทางด้านวัฒนธรรม เท่าที่สังเกตข้อแตกต่างระว่างตะวันตกตะวันออก ส่งผลต่อความนิยมอย่างมาก คือทางตะวันตกต้องการนักร้องที่มีความเป็นมนุษย์สูง เห็นได้จากการที่นักร้องฝรั่งถ้าไม่เกรียนโคตรๆแบบบีเบอร์ไม่ว่าจะอะไรยังไง แฟนๆก็ไม่หนี ไม่ว่าทำใครท้อง ไปได้เสียกับใคร คบกับใคร แต่ฝั่งญี่ปุ่นไม่ใช่ ที่ญี่ปุ่นหากคุณนักร้องที่เป็นไอดอล คุณต้องบริสุทธิไร้ที่ติ มีข่าวเสียๆหายๆไม่ได้แม้แต่น้อย หากมีแม้แต่นิดเดียวแฟนๆจะหันมาฆ่าคุณแทน อย่างเคสอายะกับไอดอลหลายๆคน เพราะอย่างนี้Vocaloid เรียกได้ว่าเป็นไอดอลในอุดมคติ เพราะไม่มีตัวตนจริงๆ ให้ไปทำเรื่องที่จะเสื่อมเสียชื่อเสียงด้วยตัวเองใด้ ในขณะเดียวกันก็ไปตรงข้ามกับวัฒนธรรมตะวันตก ที่เน้นเรื่องความใกล้ชิดกับแฟนๆมากกว่า ซึ่งด้วยเทคโนโลยีในปัจุบันยังไม่สามารถตอบสนองเรื่องนี้ได้โดยสมบูรณ์ ถึงทำได้ฝั่งตะวันตกก็คงไม่ยอมรับสิ่งเทียมมนุษย์เท่าใดนัก เพราะวัฒนธรรมตะวันตกเน้นเรื่องเหตุผลหนักมากกว่าจินตนาการ ดังที่เห็นได้ชัดเจนจากคลิปปฎิกิริยาของผู้สูงอายุ

      ส่วนด้านความสนใจนั้นสังเกตุได้ว่ามักจะสนใจเรื่องเทคโนโลยีกันมากกว่าคาแรคเตอร์ ก็ไปหนุนที่กล่าวมาข้างต้นอีก และมีบ้างที่สนใจในเรื่องของความนิยม เช่นจากสื่อต่างๆ และจากคลิปปฎิกิริยาก็เห็นได้เช่นกัน และก็เห็นได้ว่าสื่อไม่สื่อลึกพอ เพราะมีคนเข้าใจว่าต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงทำ เพราะทุกสื่อมีแต่เอาคอนเสิร์ตโฮโลแกรมมาลง ไม่มีสือไหนๆเอาPVเพลงธรรมดามาลงเลยสักแหล่ง ผู้จัดทำคลิปปฎิกิริยาก็เช่นกัน ถ้าเอาPVธรรมดาๆมาลง ก็จะทำให้เข้าใจว่าทุกคนมีส่วนร่วมได้อย่างไร ซึ่งจะอธิบายในภายหลัง ถึงโครงสร้างของวัฒนธรรมVocaloid

      และในอนาคตนั้นดูแล้วน่าจะรุ่งเรืองได้ไม่ยากนักถ้าจะทำ เพราะดูปฎิกิริยาแล้วคนรุ่นใหม่มีทีท่ายอมรับได้มากกว่าคนรุ่นเก่า และในปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตVocaloidฝั่งตะวันตกก็มีทิศทางที่เร่งดันผลิตภัณฑ์ของตัวเองมากขึ้น จากการปรับแนวทางการตลาดขนานใหญ่ในไม่กี่ปีมานี้ ส่วนฝั่งญี่ปุ่นก็พากันพยายามโกอินเตอร์ข้ามทะเลไปเช่นเดียวกัน และเรื่องที่ตัวละครออกแนวญี่ปุ่นชัดเจนเช่นMiku ที่ตอนแรกข้าเจ้าคิดว่าน่าจะเป็นอุปสรรค์ แต่ไปๆมาๆกลับถูกยอมรับได้อย่างง่ายดาย ข้าเจ้าก็แปลกใจเช่นกัน

      ส่วนปัจจัยที่ทำให้แพร่หลายไปในฝั่งตะวันตกได้เร็วมาก(แต่รู้จริงหรือเปล่ามันอีกเรื่อง) ข้าเจ้ามองว่ามันคือ"อินเทอร์เน็ต"ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วมีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากกว่า ส่วนหนึ่งมาจากประชากรที่ได้รับการศึกษามากกว่า และชุมชนเมืองที่ถือว่าเป็นแหล่งชั้นยอดในการเผยแพร่วัฒนธรรมใดๆก็ตาม มีประชากรที่มีรายได้ดีมากกว่าเราหลายเท่า ทำให้สามารถเผยแพร่ผ่านงานอีเวนต์ต่างๆได้อีกทอดหนึ่ง(และงานเหล่านี้มันประกาศผ่านอินเทอร์เน็ต) และยิ่งเป็นงานที่ยิ่งใหญ่อย่างคอนเสิร์ตทั้งหลาย ก็ทำให้สื่อต่างๆให้ความสนใจ และเผยแพร่ออกไปแม้ผิดๆถูกๆก็ตาม แต่ถ้ามีคนสนใจและหาข้อมูลเพิ่มเองได้ก็ถือว่าดีแล้ว

      สุดท้ายนี้แม้วัฒนธรรมVocaloidเพิ่งเริ่มเดินออกไปทั่วโลกได้เพียงไม่กี่ก้าวจากเส้นทางยาวไกล แต่ข้าเจ้าเชื่อว่า พวกเขาจะเชื่อมคนทั้งโลกเข้ากันได้ในอนาคต เพราะอนาคตมาสู่ปัจจุบันแล้ว

ปล.ส่วนเรื่องความนิยมแค่ดูคลิปคอนเสิร์ตต่างๆก็น่าจะเข้าใจได้แล้วจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเขียนลงไป ถ้ามีจะรวมกับบทความที่จะกล่าวถึงความนิยมทั้งโลก

อ้างอิง
http://akibatan.com/2010/10/miku-in-metro/
http://akibatan.com/2010/10/hatsune-miku-will-conquest-the-world/
http://metro.co.uk/2010/10/21/hatsune-miku-is-pops-biggest-draw-as-japanese-3d-cartoon-stage-sensation-556602/
http://writer.dek-d.com/cammy/story/viewlongc.php?id=486572&chapter=507
http://www.eluniverso.com/2010/09/08/1/1431/vocaloid-artistas-famosos-son-carne-hueso.html?m=tu
http://www.cbsnews.com/8301-205_162-57547707/hatsune-miku-the-worlds-fakest-pop-star/
http://www.the-top-tens.com/lists/singers-perform-london-olympics-opening-ceremonies.asp
http://www.the-top-tens.com/items/hatsune-miku-391821.asp
http://www.youtube.com/user/TheFineBros?feature=watch
http://www.youtube.com/channel/UCINS_5DnREXFLVRwFQS8EXg?feature=watch

วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2556

V3 Gackpoid


 ข้อมูลซอฟต์แวร์

 รุ่น Vocaloid3
 ผู้ผลิต Internet Co., Ltd.
 ภาษาที่รองรับ ญี่ปุ่น
 ผู้ให้เสียง JP:神威 楽斗 EN:Gakuto Kamui TH:กะคุโตะ คะมุอิ 
 วันวางจำหน่าย  13 กรกฎาคม 2012
 ราคา 25,000เยน ดิจิตอล ดาวน์โหลด 20,000เยน
 หน้าหลัก

       V3 Gackpoidไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าเดิมเป็นชุดเสริมของGactpoid รุ่นVocaloid2มาก่อนหรือไม่แม้ในระยะแรกๆจะถูกเรียกว่าGactpoid Extend ก็ตาม และได้มีการจำหน่ายทั้งแบบรวมชุดและจำหน่ายแยกเช่นเดียวกับV3 Megpoid

       V3 Gackpoid เป็นVocaloidที่มีบรรจุภัณฑ์หลายแบบ (ไม่นับกรณีRin/Len ACT1และ2 ซึ่งถือว่าเป็นเสมือนคนละตัวกัน) ซึ่งรูปข้างต้นเป็นบรรจุภัณฑ์แบบธรรมดา ส่วนอีกแบบนั้นจำหน่ายให้กับสมาชิกเว็บไซต์ Dears ที่สั่งซื้อล่วงหน้าก่อนวันที่26 มิถุนายน 2012 ซึ่งจะแพงกว่าแบบธรรมดา แต่มีของแถมพิเศษให้ นอกเหนือจากของแถมปกติคือ แฟ้มใสขนาดโปสการ์ตพิมพ์ลายอิลลัสของแต่ละVoicebank และ แผ่นเพลงDemo songและไฟล์VSQX (ในส่วนของแถมพิเศษหาข้อมูลไม่เจอ)

ข้อมูลทางเทคนิค
V3 Gackpoid - Native

 Tempo 60~150BPM
 Range A1~C4
 ราคาจำหน่ายแยก 13,000เยน

      เป็นรุ่นปรับปรุงของVoicebankเก่าเท่านั้นโดยเพิ่มคุณสมบัติต่างๆของVocaloid3และลดเสียงรบกวนพื้นหลัง


V3 Gackpoid - Wisper

 Tempo 60~150BPM
 Range A1~G3
 ราคาจำหน่ายแยก 13,000เยน

        ให้เสียงเบาสบายให้เสียงที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด แต่มีระยะเสียงที่แนะนำน้อยที่สุดซึ่งถ้าใช้นอกเหนือจากที่แนะนำต้องจูนให้ดี


V3 Gackpoid - Power
 Tempo 60~150BPM
 Range A1~C4
 ราคาจำหน่ายแยก 13,000เยน

        เสียงมีพลัง มีความใกล้เคียงเสียงจริงของผู้ให้เสียงมากที่สุด คล้ายกับเสียงขึ้นจมูกของVoicebankเก่า หรือNativeที่ถูกปรับแต่ง แต่Voicebankนี้จะมีปัญหาถ้าเปลี่ยนไปร้องโทนอ่อนต้องเปลี่ยนไปใช้Voicebankอื่นเท่านั้น

ตัวอย่างเพลง



อ้างอิง

วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556

Megpoid English






ข้อมูลซอฟต์แวร์

 รุ่น Vocaloid3
 ผู้ผลิต Internet Co., Ltd.
 ภาษาที่รองรับ อังกฤษ
 ผู้ให้เสียง JP:中島 愛 EN:Megumi Nagajima TH:เมะงุมิ นะงะจิมะ 
 วันวางจำหน่าย  16 มีนาคม 2012
 ราคา 11,340เยน(รวมภาษีแล้ว)/ 160$
 หน้าหลัก

ข้อมูลทางเทคนิค
 Tempo  60 - 175 BPM
 Range  F2 - A4

        Megpoid Englishถูกสร้างมาโดยมุ่งหวังในการเผยแพร่Vocaloidสู่สหรัฐอเมริกาในโครงการVOCALOID Trans-Pacific ซึ่งเพื่อให้ออกเสียงภาษาอังกฤษได้ตัวVoicebankจึงมีขนาดเป็น5เท่าของภาษาญี่ปุ่น โดยสร้างอิงกับมารตฐานของYAMAHA ซึ่งMegpoid English ไม่ได้รับการยืนยันว่าเป็นส่วนหนึ่งของV3 Megpoid แต่อย่างใด

      ด้านคุณภาพจัดได้ว่าเป็นVoicebankที่ออกเสียงภาษาอังกฤษได้ดีตัวหนึ่งและมีทั้งความสมจริงและความสมบูรณ์สูงมาก แต่ก็ยังมีปัญหากับการเปลี่ยนเสียงพยัญชนะอยู่บ้าง ส่วนปัญหานอกจากนั้นเกิดจากสำเนียงของผู้ให้เสียงที่ให้เสียงออกมาไม่ได้เหมือนเจ้าของภาษา


V3 Megpoid


V3 Megpoid complete



 ข้อมูลซอฟต์แวร์

 รุ่น Vocaloid3
 ผู้ผลิต Internet Co., Ltd.
 ภาษาที่รองรับ ญี่ปุ่น
 ผู้ให้เสียง JP:中島 愛 EN:Megumi Nagajima TH:เมะงุมิ นะงะจิมะ 
 วันวางจำหน่าย  21 ตุลาคม 2011
 ราคา 25,000เยน ดิจิตอล ดาวน์โหลด 22,000เยน
 หน้าหลัก

       หลังจากที่Cryptonประสพความสำเร็จกับVocaloid Append บริษัทInternet ก็ได้มีแนวคิดที่จะทำชุดVoicebankเสริมให้กับVocaloidของตนบ้าง จึงนำMegpoidซึ่งมีสถานะเป็นเรื่อธงของบริษัทเช่นเดียวกับที่Mikuเป็นเรือธงทางการตลาดของCrypton ไปสร้างเป็นMegpoid Extend แบบเดียวกับที่Cryptonได้สร้างMiku Append โดยตอนแรกตั้งใจจะให้เป็นเพียงชุดเสริมของVocaloid2เท่านั้น แต่เมื่อYAMAHAได้เปิดตัวVocaloid3ออกมาทั้งๆที่การพัฒนา Megpoid Extend ยังไม่เสร็จสิ้น จึงทำการล้มเลิกโครงการ แล้วนำมาทำเป็นVocaloid3แทน โดยที่จะจำหน่ายทั้งแบบแยกชิ้นและแบบรวมชุด(รูปข้างบนเป็นหน้าปกกล่องของแบบรวมชุด)

ข้อมูลทางเทคนิค

V3 Megpoid - Power

 ราคาจำหน่ายแยก 11,340เยน(รวมภาษีแล้ว)

 Tempo 60~175BPM
 Range F2~A4

      เสียงชัดเจนมาก สามารถแสดงการสั่นไหวของเสียงและลากเสียงยาวได้ดี แต่มีปัญหากับโน๊ตเสียงสั้น



V3 Megpoid - Wisper

 ราคาจำหน่ายแยก 11,340เยน(รวมภาษีแล้ว)

 Tempo 60~175BPM
 Range F2~A4

        มีเสียงเบาบางเหมาะกับเป็นเสียงพื้นหลัง แต่เสียงอาจแหบพร่าหากเป็นโน๊ตเสียงยาว

V3 Megpoid - Adult


 ราคาจำหน่ายแยก 11,340เยน(รวมภาษีแล้ว)

 Tempo 60~175BPM
 Range F2~A4


        เสียงนุ่มที่สุด แต่เมื่อเปลี่ยนโน๊ตอย่างรวดเร็วโดยที่ปรับแต่งเสียง เสียงอาจจะสะดุดได้

V3 Megpoid - Sweet


 ราคาจำหน่ายแยก 11,340เยน(รวมภาษีแล้ว)

 Tempo 60~175BPM
 Range F2~A4

        สามารถร้องเพลงเร็วได้ดี แต่เสียงจะถูกบีบในโน๊ตบางตัวถ้าเสียงกระโดดจากOctave ต่ำไปสูง และเสียงจะอ่อนเกินหากคอมพิวเตอร์เก่าเกินไป

ตัวอย่างเพลง

V3 Megpoid - Native

 ข้อมูลซอฟต์แวร์

 รุ่น Vocaloid3
 ผู้ผลิต Internet Co., Ltd.
 ภาษาที่รองรับ ญี่ปุ่น
 ผู้ให้เสียง JP:中島 愛 EN:Megumi Nagajima TH:เมะงุมิ นะงะจิมะ 
 วันวางจำหน่าย  16 มีนาคม 2012
  ราคา 11,340เยน(รวมภาษีแล้ว)
 หน้าหลัก

ข้อมูลทางเทคนิค


 Tempo 60 - 175 BPM
 Range F2 - A4


        V3 Megpoid - Native เป็นVoicebankที่ไม่ได้รวมอยู่ในชุดV3 Megpoid Complete ซึ่งตัวนี้นั้นต่างจากV3 Megpoid 4ตัวก่อนหน้าที่4ตัวนั้นเดิมสร้างมาเพื่อเป็นตัวเสริมให้กับMegpoidในVocaloid2 แต่ก็ย้ายมาลงVocaloid3 ทำให้ในVocaloid3นั้นต้องใช้ตัวปกติของVocaloid2มาใช้แทน แต่อย่างไรก็ตามคุณภาพของVocaloid2แม้ได้ตัว EditorของVocaloid3มาช่วยปรับปรุงเรื่องลูกเล่นเสียงต่างๆก็ตาม ก็ยังไม่เท่าVocaloid3แท้ๆ ดังนั้นตัวV3 Megpoid - Native จึงถุกสร้างมาเพื่อแทนที่ตัวVoicebankของรุ่นVocaloid2 ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ยังมีปัญหาเก่าๆที่ทางInternetไม่ยอมแก้ให้อยู่บ้าง ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วสำรับนักแต่งเพลงที่มีของVocaloid2อยู่แล้วและมีฝีมือพอสมควร ก็ไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะต้องใช้ของVocaloid3

สิ่งที่ปรับปรุง
-เสียงนุ่มนวลขึ้น
-ลดเสียงรบกวน

-เพิ่มเสียงTriphones
-เสียงใสขึ้น แต่อาจไม่เหมาะสำรับผู้ที่ชอบการสั่นของเสียงแบบVoicebankเก่า
-เพิ่มคุณภาพเสียง
-ใช้งานง่ายขึ้นเนื่องจากข้อที่กล่าวไปแล้วข้างต้นทำให้สามารถปรับแต่เสียงได้ง่ายขึ้น


อ้างอิง

วันอังคารที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2556

Galaco


ข้อมูลซอฟต์แวร์

 รุ่น Vocaloid3
 ผู้ผลิต
  -Stardust Records(Voicebank)
  -Internet Co., Ltd. (ร่วมพัฒนา)
  -Dwango (จัดการประกวด)
  -YAMAHA (ประสานงาน)
 ภาษาที่รองรับ ญี่ปุ่น
 ผู้ให้เสียง JP:柴咲 コウEN:Kou Shibasaki TH:โค ฌิบะซะคิ
 *เป็นของรางวัลในการประกวดไม่จัดจำหน่าย*

ข้อมูลทางเทคนิค


 Tempo 60 ~ 175 BPM
 Range F2 ~ G4
 แนวเพลงที่แนะนำ ป๊อบ,บัลลาร์ด

ข้อมูลตัวละคร

 ชื่่อ JP:ギャラ子 EN:Galaco TH:เกียะละโกะ
 เพศ หญิง
 ผู้ออกแบบตัวละคร KEI

ตัวอย่างเพลง


       Galacoเป็นVocaloidที่ไม่ได้ทำมาเพื่อการจำหน่ายทางการค้า แต่เป็นไปเพื่อเป็นของรางวัลในการประกวดแต่งเพลงที่ทางNico Nico Douga (Dwango)และYAMAHAเป็นแกนหลักจัดขึ้นในปี2012 โดยมีเงื่อนไขว่าต้องใช้Vocaloid3ที่กำหนดในการแต่งเพลงได้แก่
  VY1v3
  Mew
  V3 Megpoid
  SeeU
  Tone Rion
  CUL
ซึ่งแต่ละบริษัทผู้ผลิตต่างมีของรางวัลเป็นของตัวเอง แต่ต่อมา ได้มีการประกาศเพิ่มเติม โดยอณุญาตให้ใช้ Lapis Aoki,Yukari,IA,V3 Lily และ V3 Megpoid - Native เพิ่มและได้เพิ่มGalacoเป็นของรางวัลให้แก่ผู้ที่ผลงานมีผู้เข้าชมเกิน1,000คน ซึ่งหลังจากจบการแข่งขัน มีผู้ได้รับGalacoมั้งหมด697คน โดยสามารถได้มาผ่านการดาวน์โหลดเท่านั้น ซึ่งการดาวโหลดถูกปิดไปในวันที่31 ธันวาคม 2012 และโค๊ตใช้งานหมดอายุวันที่31 มกราคม 2013 แต่สามารถขอโค๊ตใหม่ได้และโค๊ดตัวใหม่จะหมดอายุในวันที่31 เมษายน 2013 แต่ก็มีวิธีที่จะทำให้ใช้ต่อไปได้คือ 1.ลงทะเบียนกับP-Club 2.ติดต่อUGC Publishing

        Galacoปรากฎตัวครั้งแรกในMVเพลงgalaxias!ของ Kou Shibasaki ผู้ให้เสียง
        ซึ่งก่อนที่จะประกาศตัวVocaloidนั้นได้มีการออกGalacoเป็นตุ๊กตาบลาย แต่ไม่ได้วางจำหน่าย เพราะทำไว้เพื่อจัดแสดงและโปรโมตเป็นหลัก และดีไซน์ของKEI ก็ได้อ้างอิงมาจากตุ๊กตาตัวนี้

        อนึ่งGalacoเป็นVocaloidที่ถูกรายงานว่ามีความผิดพลาดร้ายแรงที่ทำให้ซอฟต์แวร์Vocaloid3 ล่และขึ้นหมดอายุในวันที่ 10 มีนาคม 2013 เนื่องจากGalacoมีระบบวันหมดอายุที่ตัวอื่นๆไม่มีทำให้เกิดการทำงานผิดพลาด เมื่อวินโดวส์ทำการอัพเดต


อ้างอิง



Lily



ข้อมูลซอฟต์แวร์

 รุ่น Vocaloid2 Vocaloid3
 ผู้ผลิต
  -Internet Co., Ltd. (Voicebank,จัดจำหน่าย)
  -YAMAHA (ข้อมูลพื้นฐาน)
  -Avex Management Co., Ltd  (ข้อมูลพื้นฐาน)
 ภาษาที่รองรับ ญี่ปุ่น
 ผู้ให้เสียง JP:益田 祐里 EN:Yuri Masuda TH:ยุริ มะซะดะ
 วันวางจำหน่าย Vocaloid2 25 สิงหาคม 2010
                          Vocaloid3 19 เมษายน 2010
 ราคาจำหน่าย Vocaloid2 12,600เยน  Vocaloid3 12,800 เยน (รวมภาษี)
 หน้าหลัก Vocaloid2 Vocaloid3

ข้อมูลทางเทคนิค

Vocaloid2


 Tempo 90 ~ 180BPM
 Range D2 ~ D4


Vocaloid3

 Native


  Tempo 90 ~ 180BPM
  Range D2 ~ D4

        เป็นการปรับปรุงตัวVoicebankเดิมของVocaloid2ให้ดีชึ้น


 Lily V3


  Tempo 90 ~ 180BPM
  Range D2 ~ G4


        มีระยะเสียงที่กว่าทำให้มีโทนเสียงเปลี่ยนไปจากของVocaloid2 โดยจะไปใกล้เคียงกับเสียงของผู้ให้เสียงมากขึ้น ไม่ได้เป็นเพื่อการแสดงอารมณ์ดังเช่นVocaloidตัวอื่นที่มีหลายVoicebank

ข้อมูลตัวละคร

 ชื่อ JP:リリィ EN:Lily TH:ลิลลี่
 เพศ หญิง
 ผู้ออกแบบตัวละคร KEI
 ไอเทมประจำตัว ผึ้ง/ป้ายทางรถไฟ

ตัวอย่างเพลง


     
       Lilyปรากฎตัวครั้งแรกบนปกอัลบัมanim.o.v.e 01 ของวงM.O.V.E.ซึ่งYuri Masudaผู้ให้เสียงเป็นนักร้องนำอยู่ และLily(Vocaloid2)ก็วางจำหน่ายวันเดียวกับอัลบัมanim.o.v.e 02อีกด้วย ถือว่าเป็นVocaloidตัวแรกที่ตัวคาแรคเตอร์ไปปรากฎบนสื่ออื่นก่อนที่จะมาเป็นVocaloid และเป็นVocaloidตัวแรกที่มีหลายบริษัทร่วมกันสร้าง ชื่อLilyมีที่มาจากชื่อผู้ให้เสียงซึ่งชื่อYuriนั้นหมายถึงดอกลิลลี่ได้ด้วย(เป็นคำพ้องเสียง)

ความนิยม


       ตอนที่เพิ่งออกมานั้นความนิยมถือว่าดี แต่ก็เฉพาะระยะแรกๆเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นไม่นานความนิยมก็ตกลงไปอย่างรวดเร็ว โดยที่มีเพลงออกมาไม่ถึง1,000เพลง ส่วนรุ่นVocaloid3 แม้ออกมาแล้วก็ไม่สามารถช่วยความนิยมอะไรมากมายได้ เมื่อลองวิเคราะดูแล้วเหตุผลหลักน่าจะเป็นการขาดการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากทางผู้ผลิต มากกว่าสาเหตุอื่นๆเช่นอาร์ตเวิร์คบรรจุภัณฑ์ คาแรคเตอร์ หรือคุณภาพเสียง หรือแม้แต่ความเกรงใจต่อผู้ให้เสียงอย่างเคสของPiko



ปล.อันนี้รวม2อันเพราะV3มันไม่มีอะไรจริงๆ


อ้างอิง