วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Iroha Nekomura

ข้อมูลซอฟต์แวร์

 รุ่น Vocaloid2
 บริษัทผู้ผลิต  AH-Software Co. Ltd.
 ผู้สนับสนุน YAMAHA
                    Sanrio Co., Ltd.
 ภาษาที่รองรับ ญี่ปุ่น
 ผู้ให้เสียง ไม่เปิดเผย
 วันวางจำหน่าย 22 ตุลาคม 2010
 ราคาจำหน่าย 15,750 เยน

 หน้าหลัก
 หน้าตัวละคร

ข้อมูลตัวละคร

 ชื่อ JP:猫村いろは EN:Iroha Nekomura TH:อิโระฮะ เนะโกะมุระ
 เพศ หญิง
 ผู้ออกแบบตัวละคร Okama

ข้อมูลทางเทคนิค

 Tempo 70 ~ 170BPM
 Range E2 ~ G4



       Iroha เป็นVocaloidที่สร้างโดยความร่วมมือระหว่างAH-SoftyกับSanrio ในHello Kitty to Issho! Project โดยที่นามสกุลนั้นแปลได้ว่าหมู่บ้านแมว (คิตตี้เป็นแมว"ที่ไม่มีปาก") ส่วนชื่อIrohaนั้น มาจากโน๊ต3ตัวแรกในดนตรีญี่ปุ่นโบราณเทียบได้กับ โด เร มี

       Irohaนั้นบางคนเข้าใจผิดว่าเป็นหน้าตาแบบมนุษย์ของคิตตี้ แต่ที่จริงIrohaนั้นเป็นพวกKittyler (หมายถึงคนที่คลั่งในคิตตี้) ทราบได้จากการที่ Iroha เป็นVocaloidไม่กี่ตัวที่มีการระบุเนื้อเรื่อมปูมหลังไว้ดังนี้
เนะโกะมุระ อิโระฮะ เป็นแพลตตินัมคิตตี้ได้ยังไง
      วันหนึ่ง มีเด็กผู้หญิงตากลมโตมัดผมหางม้าคนหนึ่ง ยืนอยู่บนฟุตปาธถือกระเป๋าเดินทางและร่มรูปคิตตี้ขนาดยักษ์ เธอหุบร่มแล้วหนีบไว้ที่แขนแล้วก็ควักมือถือออกมา เธอมองไปที่หน้าจอมือถือ หน้าจอรูปคิตตี้ นาฬิกาบนมุมจอบอกเวลา9โมง52นาที "อ้า ทำไมชั้นต้องนอนยาวแล้วมาสายยังงี้ด้วยเนี่ย" เล็บของเธอนั้นประดับไปด้วยรูปคิตตี้ เธอคงจะแต่งเล็บถึงดึกดื่นให้ออกมาน่ารักแบบนี้ เธอดูน่ารัก แต่เพราะวันนี้เธอตื่นสาย แล้วแม่ของเธอรีบแต่งหน้าให้เธออย่างรีบเร่ง แต่กว่าจะถึงตรงนี้ หน้าของเธอก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อจนเหลือที่แต่งหน้าไว้อยู่แค่นิดเดียว 


       "เร็วๆสิเจ้าไฟแดง รีบๆเขียวเร็วๆสิ" วันนี้ของเธอเริ่มต้นด้วยไฟแดงที่ไม่ยอมเปลี่ยนสีสักที ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันวิเศษสำหรับเธอ การออดิชันที่เธอได้แต่ฝันถึงตั้งแต่ตอนเธอเป็นเด็กเล็กๆ การออดิชันเป็นแพลตตินัมคิตตี้ เธอมีความสุขมากตอนที่ได้รับจดหมายว่าเธอผ่านเข้ารอบ ตั้งแต่ตอนนั้นถึงเมื่อวาน วันๆเธออยู่แต่หน้ากระจก บรรจงเลือกชุด แต่งหน้า และทำผม ทั้งหมดนี้เพื่อวันสำคัญของเธอ เธอขอให้แม่สอนถึงวิธีแต่งหน้าและทำผม และฝึกเต้นทุกวันไม่มีเว้น เพราะอย่างนั้น ทันทีที่ไฟแดงกลายเป็นเขียว เธอรีบวิ่งไปยังที่จัดงาน 9โมง55นาทีเธอถึงที่จัดงานอย่างฉิวเฉียด แล้วรีบพุ่งไปยังลิฟท์ แต่ทันใดนั้นที่เธอไปถึงประตูลิฟท์ก็ปิดลงและเลื่อนจากไป ตอนนี้เธอไม่มีเวลาที่จะรอมันอีกต่อไป "ถ้ารีบขึ้นบันไดไปชั้นอาจจะทันก็ได้" เธอจับร่มของเธอและกระโดดขึ้นบันไดไปอย่างเร่งรีบ เมื่อเธอถึงผู้ชายคนหนึ่งกำลังจะปิดประตู "รอก่อนค่ะ! หนูเป็นผู้เข้าแข่งขันค่ะ!!!" เธอตะโกนพร้อมกับยื่นเอกสารให้ชายคนนั้นดู เขารับมาดุแล้วพูดว่า "อ๋อ คุณหมายเลข50 เรากำลังจะปิดแล้วนะ" "ขอโทษค่ะ ที่หนูมาสาย" เธอตอบไปพร้อมหอบหายใจ แล้วยิ้มและทักทายเขา "โน่นห้องผู้เข้าร่วม"เขานำทางให้เธอ"รีบๆไปเตรียมตัวได้แล้ว" "ขอบคุณมากค่ะ!"

        เธอเข้าไปในห้องและได้เห็นเด็กผู้หญิงจากหลายๆที่มากมายทั่วทั้งโลก ทุกคนต่างหวังที่จะได้เป็นแพลตตินัมคิตตี้ เธอรู้สึกเป็นกังวลที่ดูๆไปแล้วเธอเหล่านั้น ล้วนมีเซนต์ด้านแฟชั่นแถมน่ารักกันหมดทุกคน บางคนก็อยู่หน้ากระจก ง่วนอยู่กับการตรวจสอบเป็นครั้งสุดท้าย "ชั้นจะสบายใจแบบนั้นได้มั้ยน้า" เธอจับเสื้อของเธอย่างเป็นกังวล แต่มองไปทางไหนก็เจอแต่เด็กผู้หญิงอยู่หน้ากระจก เธอรู้สึกว่าเธอยิ้มตามที่ฝึกมาไม่ออกอีกแล้ว เธอรู้สึกว่าทุกคนช่างส่องสว่างด้วยแสงในตัวพวกเธอ แต่ตัวเธอนั้นประกายแสงสว่างกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว "ถ้าชั้นทำแบบนั้นดูมั่งทุกคนคงหัวเราะเยาะชั้นใช่มั้ย จะลองดูดีมั้ย หรือว่าเลิกเลยดี?" เธอรู้สึกทั้งเสร้าและโกรธปนๆกัน ทันใดนั้นเธอมองไปที่กระเป๋าที่เธอถืออยู่ แม่ของเธอเคยใช้กระเป๋าใบนี้ มันเป็นรุ่นที่เก่าจนไม่มีผลิตอีกแล้ว เมื่อคืนตอนเธอกำลังเตรียมตัวอยู่นั้น แม่ของเธอได้เอากระเป๋าใบนี้มาให้ และบอกว่าให้เอาไปเป็นเครื่องลาง "หนูรู้ค่ะว่ามันเป็นเครื่องลาง แต่...ขอโทษค่ะแม่" เธอพูดอย่างไร้ซึ่งพลังใดๆหลงเหลือในตัวเธอ ทันทีที่เธอจับที่ลาก เธอก็นึกได้ถึงคำของแม่ "ถ้าลูกเจอสถานการณ์เลวร้าย ให้เปิดกระเป๋าใบนี้นะจ๋ะ" ทีจึงรีบเปิดกระเป๋าในทันที แต่ทันใดั้นสิ่งมหัศจรรย์ได้เกิดขึ้น ไม่ว่าเธอพยามเท่าไหร่ เธอก็เปิดมันไม่ออก "เอาละ ถ้าชั้นยังสับสนแถมเจอปัญหาแบบนี้มันคงจะเปิดอออกหรอกนะ" เธอกระซิบและยืนอยู่หน้ากระเป๋าใบนั้นอย่างเป้นกังวล เรอยื่นมือไปจับซิปแล้วพยามเปิดอีกรอบ ก่อนหน้านี้มันไม่ยอมเปิด เหมือนกับมีอะไรมาขวาง แต่ตอนนี้เธอรูดซิปถูกข้างและเปิดมันได้เสียที ข้างในนั้นเต็มไปด้วยกิ๊บรูปคิตตี้ กับเครื่องประดับรูปคิตตี้อีกมากมาย ทั้งหมดเป็นของตั้งแต่สมัยแม่เธอยังเด็ก ตอนนี้ได้กลายเป็นของหายากและไม่มีใครมีมันอีกแล้ว "ว้าว! สวยจัง" เธอร้องอย่างมีความสุข เธอพยายามค้นว่าข้างในมีอะไรอีก และพบจดหมายสีขาวมีรอยประทับรูปคิตตี้อยู่ "เจ้านี้มันอะไรน่ะ" มันเป็นจดหมายจากแม่ของเธอ
"ของพวกนี้เป็นของมี่แม่เคยใช้สมัยได้เป็นแพตตินัมคิตตี้ ถ้าลูกยังไม่อยากสูญเสียความเป็นตัวเอง แล้วอยากเป็นที่หนึ่ง แม่รู้ว่าสูกจะต้องเปิดทางให้ตัวเองได้แน่ๆ โชคดีนะ"
 ยิ่งเธออ่านจดหมายฉบับนี้มากเท่าไหร่หัวใจของเธอยิ่งเต้นแรงมากขึ้น "เป็นตัวของตัวเอง...." เธอนึกย้อนไปถึงตอนที่เธอพบคิตตี้เป็นครั้งแรก มันเป็นตุ๊กตาคิตตี้ของแม่ของเธอ ตุ๊ดตานั้นช่างมีหน้าตาที่แสนน่ารัก ทันทีที่เธอเห็นมัน เธอก็หลงรักคิตตี้ในทันที เมื่อแม่ของเธอเห็นลูกสาวชอบคิตตี้ เธอก็พูดว่า "ดีใจจังที่ลูกก็ชอบคิตตี้" แล้วเธอก็หัวเราะอย่างมีความสุข ในกระเป๋ายังมีตุ๊กตาคิตตี้มากมายที่ส่งต่อจากแม่สู่ลูก จากรุ่นสู่รุ่น มีทั้งรุ่นที่เป็นขาวดำ รุ่นที่มีดอกไม้บนหัว รุ่นที่ใส่ชุดสีดำทีดูเก่าหน่อย แต่จากทั้งหมดนั้น มีแบบที่เธอชอบที่สุด มันคือแบบแรก ริบบิ้นสีแดง ชุดสีฟ้าลายจุดสีเหลือง ออกไสตล์อเมริกัน แต่กระนั้นการมองตุ๊กตาก็ทำให้เธอรู้สึกแข็งแกร่ง "ใช่แล้ว! กิ๊บ! โบว์! ของพวกนี้แหละ!" เธอหยิบของที่แม่ของเธอเคยใช้เหล่านั้นมาสวม และยิ้มเพราะรู้ว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี

       หลังจากการรอคอยเป็นชั่วโมงในห้อง เธอก็มาถึงจุดนี้ ท่ามกลางสปอตไลต์ เหล่าเครื่องประดับที่เคยอยู่ในกระเป๋าก็ได้มาประดับบนตัวเธอ อันหนึ่งเป็นเข็มขัด อีกอันเป็นปลอกคอ เธอผูกผ้าพันคอเป็นโบว์ประดับผม ทำให้เหมือนคิตตี่้ เธอดูเต็มร้อยเมื่อประกอบกับกระเป๋า และร่ม เธอสร้างการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบระหว่างของเก่าและของใหม่ เธอพยายามสงบสติอารมรณ์ระหว่างรอการประกาศผล "สำหรับปีนี้ แพลตตินัมคิตตี้คือ......." เธอไม่ได้ยินเสียงประกาศผลเพราะเสียงผู้คนรอบๆตัวเธอ "เอ่อ...เธอน่ะ...." บางคนพูดขึ้น "อะไรนะ! จริงเรอะ! ชั้นเนี่ยนะ!" เธอตกใจกับสิ่งที่ได้รู้จนกระทั่งพิธีกรณ์พูดขึ้นมาว่า "จากแม่สู่ลูก ทั้งความฝันและความหวังที่ข้ามผ่านกาลเวลา ทั้งรักและเคารพ สิ่งที่เธอทำขึ้นนี่แหละคือสิ่งที่คิตตี้ต้องการแสดงออกมา!" เธอยื่นอยู่ท่ามกลางแสงไฟที่ส่องประกายเจิดจ้า คิตตี้ช่างน่าสนใจเสียเหลือเกิน!

-จบ-

        ด้านการดีไซน์นั้นออกแบบโดยอธิบายส่วนต่างๆดังนี้ ลำโพงที่มือนั้นเรียกว่าDynamic-Phonon Busters และมีลำโพงลอยได้อีกคู่หนึ่งเรียกว่าChorus-speakers ทั้งคู่จะลอยไปลอยมาคอยช่วยเธอ และมีไมโครโฟนลอยได้คอยเก็บเสียง ส่วนหมวกของเธอทำหน้าที่เป็นamplifier

       ด้านความนิยมเสียงตอบรับจัดว่าดีจากคุณภาพVoicaebankที่สูง และจัดว่าเป็นVocaloid ของAH Soft ในยุคVocaloid2 ที่ได้รับความนิยมสูงสุดและยังมีเพลงและผลงานอื่นๆที่ใช้เธอออกมาเป็นระยะๆแม้กระแสโดยรวมจะตกไปแล้วก็ตาม

อ้างอิง
http://vocaloid.wikia.com

วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556

SF-A2 miki


ข้อมูลซอฟต์แวร์

 รุ่น Vocaloid2
 บริษัทผู้ผลิต  AH-Software Co. Ltd.
 ภาษาที่รองรับ ญี่ปุ่น
 ผู้ให้เสียง JP:古川 美季 EN:Miki Furukawa TH:มิกิ ฟุรุคะวะ
 วันวางจำหน่าย 4 ธันวาคม 2009
 ราคาจำหน่าย 15,750 เยน
 หน้าหลัก

ข้อมูลตัวละคร

 ชื่อ JP:SF-A2 開発コード miki EN:SF-A2 development code miki TH:SF-A2  รหัสการพัฒนา มิกิ
 เพศ หญิง
 ผู้ออกแบบตัวละคร JP:コザキ ユースケ EN:Yusuke Kozaki  TH:ยูสุเกะ โคะซะกิ

ข้อมูลทางเทคนิค

  Tempo 70 ~ 170BPM
  Range E2 ~ G4


        miki เป็น1ในVocaloid3ตัวแรก ของบริษัทAH-Software Co. Ltd.(ต่อไปนี้จะเรียกโดยย่อว่าAH-Soft) และเป็นVocaloid ตัวแรกและตัวเดียว(ในปัจจุบัน) ของซีรีส์ Artist Vocal ของAH-Soft

        ชื่อของmiki นั้นได้ยกมาจากชื่อของผู้ให้เสียงโดยตรง แต่ที่จริงแล้วmiki ไม่ได้นับว่าเป็นชื่อจริงๆ 100% เพราะได้ถูกเขียนไว้ว่า SF-A2 development code miki ตีความได้ว่า Vocaloid ชื่อว่า SF-A2 ซึ่งมีรหัสการพัฒนาว่า miki ถ้ายังไม่เข้าใจขอยกตัวอย่างกรณีVY1 ตัวVY1เป็นชื่อVocaloid แต่มีชื่อในการพัฒนาว่าMizki เช่นเดียวกัน เพียงแค่กรณีนี้เอาไปเชียนลงปกกล่องด้วยเท่านั้นเอง และบางทีอาจนับว่าเป็นชื่อก็ได้เหมือนกัน

        ด้านการออกแบบ miki นั้นได้ถูกออกแบบมาโดยมีแนวคิดว่า หุ่นแอนดรอยด์ที่สร้างด้วยวัสดุอนินทรีย์หลายๆอย่างรวมกัน แต่ดูนิ่มนวล (ส่วนตัวข้าเจ้ามองว่าหน้าตาคล้ายตุ๊กตายาง) เรื่องหน้าตาถูกออกแบบมาให้คล้ายวัยรุ่น แต่สัดส่วนร่างกายคล้ายเด็ก (ซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักว่ามันขัดกันแปลกๆ) และในปี2012 ได้มีการดีไซน์ใหม่ให้กับmiki แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าดีไซน์นี้จะเอาไปใช้ในงานใดกันแน่

       ด้านความนิยมจัดว่าไม่ค่อยดีตั้งแต่ต้น เช่นเดียวกับอีก2ตัว ถ้าเทียบกับมาตรฐานยอดขายและความนิยมVocaloid ญี่ปุ่นซึงถูกMikuทำให้สูงลิ่ว เกินเกณฑ์ที่ซอฟต์แวร์ประเภทนี้ควรเป็น และที่ความนิยมไม่ค่อยดีน่ามาจากการตลาดของAH-Soft ที่ไม่ค่อยดี มากกว่าด้านอื่นๆ เพราะด้านคุณภาพนั้นได้รับคำชมมากมาย แต่ถูกติว่าใช้งานยากไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีคนใช้งานแต่งเพลงออกมานานๆครั้ง

อ้างอิง
http://vocaloid.wikia.com

วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2556

Time line เหตุการณ์สำคัญในวงการVocaloid

Time Line นี้เรียบเรียงมาจากเว็บไซต์และหลังสือหลายแหล่ง บางข้อมูลอาจผิดพลาดหรือไม่ครบถ้วนได้
*เนื้อหาจะมีเพิ่มเรื่อยๆตามข้อมูลที่เจอเพิ่มเติมและเหตุการณ์ใหม่ๆ*
*เลือกปีCtrl+Fโลดเลยจ้า

2000
    มีนาคม
      เริ่มพัฒนาSoftware Vocaloid ณ มหาวิทยาลัยPompeu Fabra ประเทศเสปน นำโดยเค็นโมะชิ ฮิเดะคิ
2003
    กุมภาพันธ์
       26 เปิดตัวVocaloidครั้งแรก
    กรกฎาคม
       24 เพลงあの素晴らしい愛をもう一度 (Ano Subarashii Ai wo Mou Ichido ,That Wonderful Love Once More)ร้องโดยKaito และ Meiko รุ่นต้นแบบได้รวมอยู่ในอัลบัมHISTORY OF LOGIC SYSTEM เป็นเพลงVocaloidเพลงแรกที่ได้รวมอยู่ในอัลบัม
2004
    มกราคม
       15 เปิดตัวพร้อมวางจำหน่าย Leon และ Lora ซึ่งเป็นVocaloid 2ตัวแรก ในงานNAMM Show


    กรกฎาคม
       1   วางจำหน่าย MIRIAM ซึ่งเป็นVocaloidตัวแรกที่เปิดเผยผู้ให้เสียง

    พฤศจิกายน
       5   วางจำหน่ายMEIKO ซึ่งเป็นVocaloid ภาษาญี่ปุ่นตัวแรกที่วางจำหน่าย
     ธันวาคม
       26 คอนเสิร์ตที่มีการใช้Vocaloid ครั้งแรก ณเมืองNovosibirsk ประเทศรัสเซีย โดยที่มีMIRIAM ร้องโคฟเวอร์เพลงSad Mondays
2005
       LeonและLora ได้รับรางวัล 2005 Electronic Musician Editor choice Award
2006
 กุมภาพันธ์
       14 วางจำหน่าย KAITO ซึ่งเป็นVocaloidเพศชายเสียงภาษาญี่ปุ่นตัวแรก

2007
     มิถุนายน
       29 วางจำหน่าย Sweet Ann ซึ่งเป็นVocaloid2 ตัวแรก

     สิงหาคม
       31 วางจำหน่าย Miku Hatsune เป็นรุ่นที่แรกในซีรีส์Charactor Vocal Series ของCryptonซึ่งนับได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนของวงการVocaloidด้วยยอดขายในวันแรกกว่า3,000 ชุด ซึ่งมากกว่าสถิติที่Meikoเคยทำได้คือ1,000ชุดใน1ปี ซึ่งใน1ปีแรกMiku ทำสถิติได้ถึง40,000ชุด

     กันยายน
       3   ワンカップP(Onecup-P)เป็นVocaloid-P คนแรก
    4   Otomania ปล่อยเพลงLevan Polkka ทำให้เกิดตัวละครHachune Mikuซึ่งต่อมาได้เป็นตัวละครที่ทางCryptonได้ให้การยอมรับ พร้องสร้างภาพลักษณ์ Miku กับต้นหอม



       13 Oster Project ปล่อยเพลง 愛スルVOCA@LOID (Aisuru VOC@LOID) ได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแนวการแต่งเพลงVocaloid จากเพลงโคฟเวอร์และเพลงแปลง เป็นเพลงOriginal



       20  ika ปล่ิอยเพลง みくみくにしてあげる (Mikumiku ni shite ageru) เป็นเพลงVocaloidเพลงแรกที่ยอดเข้าชมผ่านทางNico Nico Douga เกิน1ล้านครั้ง


     ตุลาคม
       6    นิตยสารDTM ฉบับเดือนพฤษจิกายน 2007 ได้แจกแผ่นทดลองใช้ชองMiku และขายหมดภายใน3วันทำให้มีจำนวนVocaloid-Pเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากหลังได้ทดลองใช้จากแผ่นที่แจกนี้
       10  เริ่มWeekly Miku Miku Ranking ครั้งที่1 ซึ่งเป็นการจัดอันดับเพลงVocalidเป็นครั้งแรก ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็นWeekly Vocalid Ranking และWeekly Vocaloid&UTAU Ranking ในปัจจุบันหลังจากรวมเอาUTAU Ranking เข้าไว้ด้วยกัน
     พฤษจิกายน
        3   จัดงานTHE VOC@LOID M@STER ครั้งแรก
     ธันวาคม
        3   เปิด Piapro beta version
        8   เพลง ミクミクにしてあげる (Mikumiku ni shite ageru) เป็นเพลงVocaloidเพลงแรกที่ถูกบรรจุเข้าเป็นเพลงคาราโอเกะในเครือJoysound
  26 huke ได้วาดรูปชื่อว่า ブラック☆ロックシューター (BlackRock Shooter) ลงในเป็บไซต์Pixiv และต่อมา ryo (Supercell) ได้นำไปแต่งเพลงและปล่อยออกมาในวันที่ 13 มิถุนายน 2008 หลังจากนั้นก็ได้กลายเป็นทั้งอนิเมะ มังงะ และสินค้าอีกมากมาย

        27 วางจำหน่าย Rin/Len Kagamine เป็นรุ่นที่2ในซีรีส์Charactor Vocal Series ของCrypton และเป็นVocaloidรุ่นแรก ที่ใน1ชุด มีVocaloidหลายตัว และหลายVoicebank (รุ่นที่ถูกปล่อยมาในวันนี้เรียกว่า Act1ก่อนที่จะมีรุ่นแรับปรุงคือAct2)
2008
    มกราคม
       14 วางจำหน่าย Prima ของZero-G จัดเป็น Vocaloid แนวนักร้องโอเปราตัวแรก

    กุมภาพันธ์
       21 Kurousa-P ได้ปล่อยเพลง カンタレラ(Cantarella) ซึ่งเป็นแพลงแรกที่ได้มีการใส่คาแรคเตอร์ให้กับVocalid ที่มาร้อง และยังได้สร้างกระแสที่ว่า "Kaitoเป็นพี่ชายMikuเป็นน้องสาว" ทีก่อความเข้าใจผิดอย่างมาก เนื่องจากนักวาดโดจินชิหลายคนนำแนวคิดนี้ไปวาดแล้วผสมตัวอื่นๆเข้าไปอีก ทำให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างมโหฬารในหลายๆคน ซึ่งเรื่องนี้จะขยายความในภายหลัง



ปกฉบับมังงะ ชื่อว่าCantarella -Poison of Blue- กรุณาอย่าสับสนกับเรื่อง"คันตาเรลล่า พิษพยาบาท" สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ แม้ว่าชื่อเรื่องชื่อตัวละครจะเหมือนๆกันก็ตาม แต่ของVBKมีมาตั้งแต่ปี2005 เล่มนี้ออก2011

        22 halyosy ปล่อยเพลง桜ノ雨 (Sakura No Ame) ซึ่งได้กลายเป็นเพลงจบการศึกษาของโรงเรียนมัฐยมปลายของญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากไปทั้งทั้งญี่ปุ่น และวงabsorb ได้นำไปร้องยิ่งทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้น

       24 เปิดตัวโปรแกรมสร้างอนิเมชัน3มิติ Miku Miku Dance Ver1.0 เนื่องจากเป็นฟรีแวร์ และมีโมเดลให้เลือกใช้และดวาน์โหลดมาใช้มาก  ทำให้ได้รับความนิยมอย่างสูงโดยเริ่มจากการทำPV Vocaloid และได้ถูกนำไปปรับใช้กับงานอื่นๆอีกมากมาย และยังถือเป็นการปฎิวัติการสร้างอนิเมชัน3มิติอีกด้วย ด้วยการทำให้ใครๆสามารถใช้ได้ เพราะเป็นฟรีแวร์ และในเวอร์ชันหลังๆก็มีความสามารถมหาศาล แม้กระทั่งการทำMotion Capture ผ่านทางKinect
     มีนาคม
       26 Miku ได้รับรางวัล AMD Award ครั้งที่3 สาชาDigital Content
       31 Miku ได้เป็นฟิคเกอร์ครั้งแรก ในไลน์Nendoroid ของบริษัทGood Smile Company นับเป็นNendoroidลำดับที่ 33 มียอดขายมากกว่า 120,000ตัว
     เมษายน
         6 monthy ปล่อยเพลง 悪ノ娘 (Aku No Musume) และตามมาด้วย悪ノ召使 ในวันที่28 เมษายน
 2007 ซึ่งมีเนื้อหาต่อกัน ทำให้เกิดเป็น悪ノシリース (Aku No Series) ซึ่งต่อมาก็ได้ฃยายเป็นซีรีส์七つの大罪 (Nanatsu No Daizai ,Seven Deadly Sins) ในที่สุด และในซีรีส์นี้ก็ได้ออกเป็นหนังสือนิยายมาหลายเล่ม โดยในซีรีส์นี้Aku No Musume จัดว่าเป็นส่วนที่ความนิยมสูงที่สุด และในซีรีส์ถือว่าเป็นส่วนที่เกี่ยวกับมหาบาป ทางศาสนาคริสต์ในข้อหยิ่งผยอง และยังมีซีรีส์ย่อยในของตัวเองด้วยในชื่อ悪ノ物語 (Aku No Monogatari) (ระบบของซีรีส์เพลงVocaloidนั้น เพลงๆหนึ่งสามารถอยู่ได้หลายซีรีส์พร้อมๆ ซึ่งจะทำให้ตัวเนื้อเรื่องนั้นลึกข้ึน ซับซ้อนขึ้นหรือปมของซีรีส์หนึ่งอาจไปเฉลยในอีกซีรีส์หนึ่งได้)

       8 cosMo ปล่อยเพลง初音ミクの消失 (Hatsune Miku No Shoushisu, Disappearance of Hatsune Miku
) ซึ่งเป็นเพลงที่มีความเร็วสูงถึงราวๆ 240 BPM ซึ่งเกินกว่าเพดานความเร็วที่แนะนำของMikuที่150 BPM และเป็นเพลงที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของVocaloid ในการร้องเพลงที่"เหนือมนุษย์"ได้อย่างชัดเจน และเพลงนี้ก็ได้กลับมาโด่งดังอีกครั้งในปี2009 เนื่องจาก"ความบังเอิญ"ที่จะกล่าวในภายหลัง
*หมายเหตุ* คลิปประกอบนี้เป็นของLong Version ที่ปล่อยออกมาปี2008 เนื่องจากหาเวอร์ชันแรกไม่เจอ


     มิถุนายน
        11 doriko ปล่อยซิงเกิล 歌に形がないけれど (Uta Ni katachi Ga Nai Geredo) และ 夕日坂 (Yuuhihan) พร้อมกันและได้ขึ้นสู่อันดับ และได้ขึ้นOricon Chart ในลำดับที่25 และ 21ตามลำดับ เป็นครั้งแรกที่เพลงvocaloidติดOricon Chart
     กรกฏาคม
        25 จัดการประกวด MMDครั้งที่1 บนNico Nico Douga และจัดทุกครึ่งปีมาจนถึงปัจจุบัน
        31 วางจำหน่าย Gackpoid เป็นVocaloidตัวแรกของบริษัท Internet และตัวแรกใน Vocaloid Artist Series
    กรกฎาคม
        18 วางจำหน่าย+เปิดเปลี่ยนสินค้า Rin/Len Kagamine Act2 เป็นรุ่นปรับปรุง ของรุ่นแรกหรือที่ถูกเรียกว่าACT1 โดยที่จัดว่าเป็นVocaloidรุ่นพัฒนาต่อตัวแรกสุด

    สิงหาคม
        27 อัลบัม Re:package ของ livetune วางจำหน่ายส่งผลให้ชื่อของ miku เผยแพร่เป็นวงกว้างและขึ้นสู่อันดับ5ของOricon Chart ด้วยยอดขายกว่า20,000 แผ่น
     ธันวาคม
        11 ラマーズP (Lamaze-P) ปล่อยเพลงPo Pi Po (Full Version,ชื่อภาษาอังกฤษVegetable Juice) ซึ่งได้โด่งดังไปทั่วโลก กับจังหวะเคาะ4ครั้ง และในวันที่14 สิงหาคม จากท่อนหนึ่งของเพลงนี้ที่ร้องว่า”野菜ジュース” (Yasai Jyuusu น้ำผัก)ก็ได้กลายเป็นแรงบัลดาลใจให้กับสินค้าของFamily Mart
2009
     มกราคม
        30 วางจำหน่าย Luka Megurine เป็นรุ่นที่3ในซีรีส์Charactor Vocal Series ของCrypton และเป็นVocaloidรุ่นแรก ที่มีVoicebank หลายภาษา ได้แก่อังกฤษและญี่ปุ่น

     มีนาคม
        4 อัลบัม supercell วางจำหน่าย (จัดจำหน่ายโดย Sony Music Direct) ได้ขึ้นสู่อันดับ2ของ Oricon Album Diary Chart และอันดับ5ของรายสัปดาห์ ด้วยยอดขายสัปดาห์แรกกว่า1แสนแผ่น
     พฤษภาคม
        1 minato หรือ 流星P (Ryuusei-P) ปล่อยเพลงMagnet ได้ทำให้การร้องเพลงแบบ歌ってみた(Utattemita) ได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นอย่างมาก และยังเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ4ในคาราโอเกะเครือ Joysoundและอันดับ1สำหรับหมวดหมู่เพลง Vocaloid ในปี2010
     มิถุนายน
        6 เริ่มการใช้อนุสัญญา Piapro Character License ซึ่งเป็นกฏเกี่ยวกับลิขสิทธิตัวละครโดยมีพื้นฐานมาจากอนุสัญญาCreative Commons สรุปโดยย่อได้ว่า ภาพอย่างเป็นทางการของVocaloid ของCryptonนั้น (ภาพที่ใช้ในการโปรโมต/ปกกล่อง)นั้นให้สามารถนำไปใช้ได้ ยกเว้นทางการค้าโดยไม่ได้รับอณุญาติ ซึ่งต่อมาค่ายอื่นๆก็ได้นับอนุสัญญานี้ไปปรับใช้ อาจแตกต่างในด้านรายละเอียด
        14 Lat ปล่อย 初音ミク @Lat 式 for Miku Miku Dance ver.1 (Miku Hatsune model Lat for Miku Miku Dance ver.1) เป็นโมเดลMMDที่ได้รับความนิยมสูงสุดตัวหนึ่ง
        26 วางจำหน่าย Megpoid เป็นVocaloidตัวที่2ของบริษัท Internet และตัวที่2ใน Vocaloid Artist Series

     กรกฎาคม
        2 วางจำหน่าย 初音ミク -PROJECT DIVA- (Hatsune Miku -PROJECT DIVA-) สำหรับเครื่องPSPของSONY ตัวเกมสร้างโดยSEGA เป็นเกมแรกสุดที่มีVocaloid เป็นตัวหลัก (อย่างเป็นทางการ ไม่นับโดจินซอฟท์ และการเอาเพลงไปลงในเกมอื่นๆ)

        14 วางจำหน่าย Sonica โดย Zero-G ซึ่งเป็นตัวแรกของฝั่งตะวันตก ที่เริ่มปรับแนวทางเข้าหากลุ่มแฟนๆมาขึ้นกว่าเดิม

     สิงหาคม
        22 คอนเสิร์ตVocaloid ในฐานะ "ไอดอลเสมือนจริง" ครั้งแรก ในงานAnimelo Summer Live ณ Saitama Super Arena


        26 วางจำหน่ายอัลบัม 初音ミク ベスト MEMORIES,IMPACT (Hatsune Miku Best MEMORIES,IMPACT) โดยDwango User Entertainment (เจ้าของNico Nico Douga) 2อัลบัมพร้อมๆกัน โดยเป็นBest Album ของVocaloidอันแรกสุด
        31 จัดงาน Miku Fest'09 (Summer) ณ Shin-Kiba เป็นงานครบรอบ2ปีวางจำหน่ายMiku และเป็นคอนเสิร์ตครั้งแรก ที่มีการฉายภาพลงบนหน้าจอใส และเป็นคอนเสิร์ตครัั้งหนึ่งที่ถูดพูดถึงมากที่สุด

       
     พฤษจิกายน
        21 คอนเสิร์ตในงานAnime Festival Asia (AFA) ณ ประเทศสิงคโปร์ จัดเป็นคอนเสิร์ตVocaloidนอกประเทศญี่ปุ่นครั้งแรก
   ธันวาคม
       4  วางจำหน่าย SF-A2 Miki,Yuki Kaai,Kiyoteru Hiyama โดยบริษัทAH Soft โดยที่เป็นบริษัทที่4ที่ปล่อยVoicebank สำหรับVocaloidออกมา และเป็นบริษัทที่3สำหรับรุ่นภาษาญี่ปุ่น





       22 วางจำหน่ายBig-Al โดยบริษัทPower FX โดยที่เป็นบริษัทที่5ที่ปล่อยVoicebank สำหรับVocaloidออกมา และเป็นบริษัทที่2 สำหรับรุ่นภาษาอังกฤษ และได้ทำให้เกิดคำว่าBig Al syndrome (โรคBig Al) หมายถึงการเลื่อนการวางจำหน่าย ที่มักจะพบในVocaloidเสียงผู้ชาย หลังจากที่เลื่อนการวางจำหน่ายมานานนับปีเนื่องจากต้องทำVoicebankใหม่หมด


2010
   กุมภาพันธ์
       5 เปิดตัวรูปปั้นหิมะYuki Miku (Snow Miku) เป็นครั้งแรกในงานเทศกาลหิมะเมืองซัปโปะโระ ครั้งที่61 จังหวัดฮอกไกโด ซึ่งก่อนหน้านั้นได้ออกเป็นฟิคเกอร์ในไลน์ Nendoroid มาก่อนหน้านั้นในเดือนมกราคม ซึ่งYuki Mikuนั้นนับแต่ปี2010เป็นต้นมาได้มีการออกNendoroid Versionของปีนั้นๆรุ่นละปี โดยจะขายแค่ตามงานหรือสั่งจองเท่านั้น

   มีนาคม
      9 จัดงาน 39's Thank' sGiving Day ณ Zeep Tokyo ซึ่งวันที่3 มีนาคมนี้ถ้าเขียนเป็นตัวเลขและเรียงแบบญี่ปุ่นจะได้ว่า39 ซึ่งสามารถอ่านได้ว่าMiku วันนี้จึงถูกเรียกว่าミクの日 หรือวันของMiku ซึ่งวันนี้ของทุกปีจะมีการจัดคอนเสิร์ตใหญ่เสมอ
   เมษายน
      30 วางจำหน่ายMiku Append จัดเป็นชุดVoicebankเสริมของVocaloid ชุดแรกที่ออกมาโดยประกอบไปด้วย6Voicebankด้วยกัน
   พฤษภาคม
       5 วางจำหน่ายอัลบัมVocalogenesis ของExit Tunes ซึ่่งยอดขายสัปดาห์แรกสูงถึง23,000ชุด และได้ขึ้นสู่อันดับ1 ของ Oricon Daily Charts ประจำวันที่31 พฤษภาคม เป็นอัลบัมเพลงVocaloid อัลบัมแรกที่ได้ขึ้นสู่อันดับ1
   กรกฎาคม
       14 วางจำหน่าย Tonio ของบริษัทZero-G เป็นVocaloidตัวสุดท้ายที่ใช้ภาพถ่ายคนจริงเป็นภาพอิมเมจ
   สิงหาคม
       25 วางจำหน่าย Lily ของบริษัท Internet เป็นตัวแรกที่บริษัท YAMAHA มีส่วนร่วมในการพัฒนา
   กันยายน
       1 วางจำหน่าย VY1 เป็นตัวแรกที่ YAMAHA ได้พัฒนาเองหลังจากพัฒนาแต่ตัวซอฟต์แวร์ และเป็นตัวแรกในVocaloid Yamaha นอกจากนี้ยังเป็นVocaloidญี่ปุ่นตัวแรกที่ไม่มีคาแรคเตอร์
   ตุลาคม
       8 วางจำหน่าย Gachapoid ของบริษัท Internet เป็นตัวแรกที่มีพื้นฐานมาจากตัวละครอื่น โดยมีพื้นฐานมาจาก Gachapinซึ่งเป็นตัวละครในรายการเด็ก
       22 วางจำหน่าย Iroha Nekomura ของบริษัท AH software ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัท Sanrio ในโครงการ Hello Kitty to Issho!
   ธันวาคม
       8 วางจำหน่าย Piko Utatane ของบริษัท Ki/oon ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Sony Music เป็นตัวแรกที่จำหน่ายแบบดาวน์โหลดเท่านั้น

      27 วางจำหน่าย Kagamine Rin/Len Append ของบริษัทCrypton ซึ่งเป็นตัวสุดท้ายสำหรับโครงการอัพเดต Vocaloid ให้เป็นAppend ในVocaloid2 เนื่องจากตัวอื่นๆที่กำลังพัฒนาอยู่นั้นต้องเลื่อนไปออกเป็นVocaloid3 แทนและยุบรวมระหว่างAppend และVoicebankหลักอันใหม่ไปออกเป็นรุ่นv3แทน

2011
   พฤษภาคม
       4 บริษัท TOYOTA (สหรัฐอเมริกา) เปิดตัวโฆษณารถยนต์รุ่นCorolla ที่ใช้Miku เป็นตัวหลัก โดยใช้เพลง World is mine ของ Supercell ประกอบ (และมีโฆษณาตามมาภายหลังอีกหลายตัว) ทำให้ความนิยมนอกญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
      
  โปสเตอร์
  แบนเนอร์โฆษณาบนหน้าเว็บ

          แต่เนื่องจากมีเสียงตอบรับไม่ดีนักเกี่ยวกับดีไซน์ของMiku บนแบนเนอร์และโปสเตอร์จึงมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลังเป็นดังรูปข้างล่าง


   มิถุนายน
      21 อัลบัมSupercell feat. Hatsune Miku ขึ้นสู่อันดับ1ของ iTunes Store ในWorld Category
   กรกฏาคม
       2 จัดงานMIKUNOPOLICE in LOS ANGLES เป็นหนึ่งในคอนเสิร์ตครั้งสำคัญที่เป็นเครื่องพิสูจความนิยมของ Vocaloid ว่าได้โด่งดังไปทั่วโลก


       12 Nico Nico Douga เปิดเพจVocaloid http://ex.nicovideo.jp/vocaloid

*ขออภัยหารูปในระยะแรกๆไม่ได้จึงเอารูปปัจจุบันแทน*


   สิงหาคม

        17 Whiteflame หรือ 黒うさP (Kurousa-P) ปล่อยเพลง 千本桜 (Sembonsakura) ซึ่งได้กลายเป็นเพลงที่ติด 30 อันดับแรกของการจัดอันดับWVR จนถึงปัจจุบันแม้มีการเว้นช่วงที่ตกลงต่ำกว่าอันดับที่ 30 บ้าง แต่ไม่เคยทิ้งห่างเกิน 2 สัปดาห์


        30 ジン (Jin) หรือ 自然の敵P (Shizen no Teki-P) ได้ปล่อยเพลง カゲロウデイズ (Kagerou Days) ซึ่งได้จุดกระแส Kagerou Project ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงแม้ในหมู่ผู้ไม่ได้ฟังเพลงVocaloidก็ตาม และได้มีการนำไปทำอนิเมะโดยค่ายShaft ในชื่อว่าMekaku City Actors


   ธันวาคม

        14 Google เผยแพร่โฆษณาเว็บเบราส์เซอร์ Google Chrome โดยใช้เพลง Tell Your World ชอง kz (Lifetune) ประกอบ และเป็นโฆษณาตัวที่ประสพความสำเร็จที่สุด และได้นำไปจัดแสดงที่เทศกาลภาพยนต์นานาชาติเมืองคาน์ส ประเทศฝรั่งเศส


        19 เปิดแชเนล 39ch (Mikuchanel) บนYoutube เป็นชาเนลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับVocaloid ของCrypton


*มีต่อ*

ไปที่สารบัญ